การสูบบุหรี่เป็นนิสัยที่ทำให้อันตรายต่อสุขภาพมาโดยตลอด แต่เมื่อการสูบบุหรี่อยู่ในพื้นที่จำกัดอย่างเช่น ภายในรถยนต์ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อสุขภาพอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งต่อสุขภาพและผู้สูบและความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในรถ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมรอบข้างอีกด้วย

สูบบุหรี่ตอนขับรถ ผิดกฏหมายหรือไม่?
การสูบบุหรี่ในรถจะไม่ใช่แค่เรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกฏหมายในบางประเทศอีกด้วย รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากพฤติกรรมนี้ที่อาจทำให้ผู้ขับขี่เสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฏหมายโดยที่ไม่รู้
ถ้าเป็นไปตามกฏหมายจราจรการสูบบุหรี่ในรถยนต์หรือจะสูบระหว่างขับรถ ไม่ถือว่าผิดฏกหมาย เพราะไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นโดยตรง แต่จะผิดกฏหมายก้ต่อเมื่อ ผู้ขับทิ้งขี้บุหรี่หรือก้นบุหรี่ลงบนพื้นถนน จะเข้าข่ายความผิดทางอาญาตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ซึ่งเป็นความผิดอาญาตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 31 อนุมาตรา (1)
นอกจากในเรื่องกฏหมายแล้วการสูบบุหรี่หรือทิ้งก้นบุหรี่ในระหว่างการขับขี่สามารถทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้ให้ความสนใจต่อถนนและการควบคุมรถยนต์อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจจะเพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะทำให้ความสามารถในการควบคุมพวงมาลัยหรือระบบเบรกลดลง และอีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้หากก้นบุหรี่ตกอยู่ในที่ที่สามารถติดไฟได้ง่าย
อันตรายจากการสูบบุหรี่ในรถยนต์: เสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัย
1. ความเสี่ยงจากไฟไหม้ หนึ่งในอันตรายที่ใหญ่ที่สุดจากการสูบบุหรี่ในรถยนต์ คือความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ โดยเฉพาะเมื่อผู้สูบบุหรี่ทิ้งก้นบุหรี่ที่ยังมีความร้อนหรือเปลวไฟอยู่บนที่นั่ง เบาะผ้า หรือเศษขยะที่อาจอยู่ภายในรถ เมื่อก้นบุหรี่มาถูกกับวัสดุที่สามารถติดไฟได้ง่าย ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดเหตุไฟไหม้ที่รุนแรง และการดับไฟในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัดเช่นในรถยนต์ก็ยากที่จะควบคุมได้ทันเวลา

2. การสัมผัสกับควันบุหรี่ การสูบบุหรี่ในรถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเสี่ยงต่อไฟไหม้เท่านั้น แต่ยังเสี่ยงต่อการสัมผัสกับควันบุหรี่ที่เป็นพิษ ซึ่งมีสารเคมีอันตรายมากมายที่สามารถเข้าไปในร่างกายได้โดยง่าย ควันบุหรี่ที่อยู่ในรถยนต์ไม่สามารถระบายออกได้ดีเพราะพื้นที่ที่จำกัด ส่งผลให้ควันที่เกิดขึ้นยังคงค้างในรถและอาจทำให้ผู้โดยสารในรถได้รับผลกระทบจากการหายใจเข้าไป
3. การกระทบต่อสุขภาพ ไม่เพียงแต่ผู้สูบบุหรี่เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ในรถ แต่ผู้ที่อยู่ในรถด้วย เช่น ผู้โดยสารหรือเด็กเล็ก ก็อาจได้รับสารพิษจากควันบุหรี่อย่างไม่รู้ตัว การสูดดมควันบุหรี่อย่างต่อเนื่องอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ รวมถึงการได้รับการกระทบจากสารพิษที่ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็ก
4. ความเสี่ยงจากการเสียสมาธิในการขับขี่ การสูบบุหรี่ในขณะขับรถยนต์อาจทำให้เกิดการเสียสมาธิ เนื่องจากผู้ขับขี่อาจต้องใช้มือจับบุหรี่หรือจุดไฟใหม่ การที่ผู้ขับขี่ไม่ได้มุ่งมั่นอยู่กับการขับขี่อย่างเต็มที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น เช่น การไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยหรือเบรกได้ทันเวลา
5. ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในรถยนต์ ควันบุหรี่ไม่เพียงแต่มีผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ในรถ แต่ยังทำให้สภาพแวดล้อมในรถเสียหายจากกลิ่นเหม็นที่ติดทนอยู่ในเบาะ ผ้าม่าน และพรมของรถ อีกทั้งยังทำให้หน้าต่างรถยนต์ขุ่นและยากที่จะทำความสะอาด
การป้องกันและการตระหนักถึงอันตราย
การลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ในรถยนต์สามารถทำได้โดยง่าย เพียงแค่เลือกที่จะไม่สูบบุหรี่ในรถและสูบบุหรี่ในสถานที่ที่เหมาะสมที่มีการระบายอากาศได้ดี หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรใช้ที่ดับบุหรี่ที่มีความปลอดภัยและทิ้งก้นบุหรี่ให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดไฟไหม้และลดผลกระทบจากควันบุหรี่
การตระหนักถึงอันตรายจากการสูบบุหรี่ในรถยนต์ไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องสุขภาพของตัวเองและผู้โดยสารในรถ แต่ยังช่วยรักษาความปลอดภัยและความสะอาดภายในรถอีกด้วย
การสูบบุหรี่มีข้อเสียอย่างไร?
การสูบบุหรี่เป็นพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง แม้ว่าในบางครั้งอาจดูเหมือนว่าเป็นการผ่อนคลายหรือช่วยลดความเครียด แต่ข้อเสียจากการสูบบุหรี่มีมากมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อชีวิตและสุขภาพของผู้สูบ รวมถึงคนรอบข้างอีกด้วย
1. ผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย
ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง:
หนึ่งในอันตรายที่ร้ายแรงที่สุดจากการสูบบุหรี่คือการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด มะเร็งในช่องปาก มะเร็งคอหอย และมะเร็งกระเพาะอาหาร การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายได้รับสารเคมีหลายร้อยชนิดที่เป็นพิษ และสารเหล่านี้มีความสามารถในการก่อมะเร็ง
โรคหัวใจและหลอดเลือด:
การสูบบุหรี่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง การสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลงและเพิ่มการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งส่งผลให้เกิดการอุดตันในหลอดเลือด ทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
โรคทางเดินหายใจ:
การสูบบุหรี่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจต่าง ๆ เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือโรคหอบหืด เนื่องจากการสูบบุหรี่ทำให้การไหลของอากาศในปอดถูกขัดขวาง ทำให้หายใจลำบากและเสี่ยงต่อการเกิดภาวะปอดบวม
2. ผลกระทบต่อสุขภาพจิตและอารมณ์
การสูบบุหรี่ไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ของผู้สูบ เมื่อผู้สูบไม่ได้สูบบุหรี่หรือพยายามที่จะเลิกสูบ อาจรู้สึกหงุดหงิด เครียด และวิตกกังวล การสูบบุหรี่ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะซึมเศร้าและอาการวิตกกังวล เนื่องจากนิโคตินในบุหรี่ทำให้สมองหลั่งสารเคมีที่ช่วยให้ผู้สูบรู้สึกผ่อนคลายชั่วคราว แต่เมื่อสารนิโคตินหายไปก็อาจเกิดอาการถอนตัวและอารมณ์เสียตามมา
3. ผลกระทบต่อผิวพรรณและความงาม
บุหรี่ทำให้ผิวหนังของผู้สูบแก่ก่อนวัย เนื่องจากสารเคมีในบุหรี่ทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังถูกทำลาย ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอย และผิวหนังดูหมองคล้ำ การสูบบุหรี่ยังสามารถทำให้ฟันเหลืองและมีกลิ่นปาก ทำให้การดูแลรักษาความงามเป็นเรื่องยากขึ้น
4. ผลกระทบต่อคนรอบข้าง
ไม่เพียงแต่ผู้สูบเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ แต่ยังรวมถึงคนรอบข้างที่ต้องสัมผัสกับควันบุหรี่ด้วย ควันบุหรี่มือสอง (Secondhand Smoke) เป็นอันตรายต่อผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่เอง โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ ควันบุหรี่มือสองสามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจในผู้ที่สัมผัสเป็นประจำ
5. การสูบบุหรี่มีผลกระทบทางการเงิน
การซื้อบุหรี่เป็นภาระทางการเงินที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ เช่น ค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็ง, โรคหัวใจ, และโรคปอด จึงเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าในระยะยาว
6. ผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม
การทิ้งก้นบุหรี่ตามที่ต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดมลพิษในสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า เนื่องจากก้นบุหรี่เป็นขยะที่ย่อยสลายได้ยากและอาจปนเปื้อนสารพิษที่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม

สรุป
การสูบบุหรี่ขณะขับรถอาจเป็นเรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วมันมีอันตรายที่อาจส่งผลกระทบทั้งต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงการกระทบต่อสุขภาพของผู้อื่นด้วย นอกจากนี้ยังอาจมีข้อกฎหมายในบางพื้นที่ที่ห้ามการสูบบุหรี่ในรถที่มีผู้โดยสารเด็ก การตระหนักถึงอันตรายเหล่านี้และการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงและทำให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น