สำหรับท่านใดที่ขับขี่รถยนต์ก็คงอยากดูแลรถเป็นอย่างดี แต่ถึงแม้จะดูแลรถดีแค่ไหน หากยังมีพฤติกรรมการขับขี่แบบนี้บ่อยๆ ก็อาจทำให้ รถเสีย หรือรถพัง โดยไม่รู้ตัว แล้วคุณอาจต้องมาจ่ายค่าซ่อมเองแน่นอนครับ ว่าแต่จะมีพฤติกรรมการขับขี่แบบไหนบ้างที่ทำให้รถพังไว ยิ้มได้ประกันภัย ได้รวบรวมคำตอบมาให้ทุกท่านแล้วครับ
1.เร่งเครื่องแรงทันทีที่สตาร์ท
รถยนต์ทุกคันจำเป็นต้องอุ่นเครื่องทุกครั้งก่อนเริ่มขับ ควรอุ่นเครื่องรออย่างน้อย 5 นาที เพราะหลังจากที่ดับเครื่องและจอดทิ้งไว้ทั้งคืน น้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์ยังไปหล่อเลี้ยงส่วนประกอบภายในเครื่องยนต์ได้ไม่เต็มที่ และเพื่อให้ระบบภายในเครื่องยนต์ทำงาน เช่น น้ำมันเครื่องจะได้ไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่างๆ แต่ถ้าสตาร์ทรถแล้วออกตัวเลยอาจทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพเร็ว แถมสิ้นเปลืองพลังงานอีกด้วย
2.สังเกตไฟแจ้งเตือนหน้าปัด
ไฟเตือนบนหน้าปัดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ โดยเฉพาะไฟสีแดงที่แจ้งเตือนที่อาจหมายถึงระบบสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ของท่านเอง หากไม่ตรวจสอบหรือแก้ไข ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้นถ้ามีไฟตัวไหนแสดงหน้าปัดขึ้นอาจบ่งบอกได้ถึงความผิดปกติของเครื่องยนต์ เช่น ระบบเบรก ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบไฟชาร์จ ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า เผื่อมีปัญหาจะได้แก้ไขทันที และส่งให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล ทั้งนี้นอกจากไฟเตือนแล้ว ต้องคอยสังเกตอาการแปลกๆระหว่างขับขี่ด้วยนะครับ เช่น สั่นผิดปกติ มีเสียงแปลกๆ หรือมีอาการอื่นที่แปลกไปจากเดิม ก็อย่าปล่อยไว้นะครับ ถ้ามีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
3.ปล่อยให้ของเหลวในเครื่องแห้ง
หลายท่านน่าจะเคยเป็นอยู่บ่อยครั้ง ด้วยการปล่อยให้ของเหลวในเครื่องยนต์อยู่ในระดับที่ต่ำจนเกือบหมด ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่หลายท่านน่าจะเคยประสบบ่อยครั้ง แต่จริงๆ แล้วเป็นผลเสียกับปั๊มน้ำมันเบนซินที่อยู่ในถังเชื้อเพลิงซึ่งควรมีน้ำท่วมอุปกรณ์ตัวนี้อยู่ตลอด ดังนั้นถ้าน้ำมันลดลงถึงครึ่งถังแล้ว ควรเติมเพื่อช่วยรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เสื่อมสภาพ และยังเผื่อฉุกเฉินอีกด้วยนะ
4.ไม่ชะลอความเร็วเมื่อเจอลูกระนาด
การชะลอรถเมื่อเจอลูกระนาด รวมไปถึงเส้นทางที่ขรุขระ หรือทางลาดชันบนถนน แล้วไม่ยอมชะลอความเร็วรถ อาจทำให้ช่วงล่างของเครื่องยนต์เสื่อมสภาพลงด้วย เช่น โช้คอัพ สปริง ลูกหมาก หรือแร็คพวงมาลัย หากช่วงล่างเสียหายขึ้นมา อาจทำให้เสียค่าซ่อมแพงเลยทีเดียว
5.เปลี่ยนเกียร์โดยกะทันหัน
การเร่งเปลี่ยนเกียร์กะทันหันโดยที่รถยังหยุดไม่สนิท เช่น เปลี่ยนจากเกียร์ D ไป R หรือเปลี่ยนเกียร์จากเดินหน้าไปถอยหลังทันที ถือว่าเป็นการทำลายระบบส่งกำลัง และระบบขับเคลื่อนแบบเต็มๆ เพราะพฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้เกียร์จะมีอาการกระตุก และสึกหรอไปอย่างรวดเร็วจนอาจพังไปในที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบเหล่านั้นเสื่อมสภาพเร็วเกินไป ควรรอให้รถหยุดสนิทก่อน แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเกียร์
หลายท่านอาจเคยมีพฤติกรรมการขับขี่แบบนี้อยู่บ้าง หากเคยทำแล้วต้องหยุดเดี๊ยวนี้เลยนะครับ เพราะนอกจากจะช่วยรักษาเครื่องยนต์ และส่วนต่างๆ ของรถยนต์แล้ว ยังลดการเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วยนอกจากนั้นแล้วเพื่อดูแลรักษารถยนต์ที่คุณรักอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้เพื่อความอุ่นใจด้วยนะครับ
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่ราคาถูกและดี ให้ความคุ้มครองที่หลากหลายสามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อให้คุณได้ประกันภัยที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับความคุ้มครองดีที่สุด