สำหรับใครที่ขับรถบ่อยๆ หรือขับรถทางไกลอยู่เป็นประจำอาจจะต้องเสียเงินไปกับค่าน้ำมันจำนวนมาก ทำให้หลายๆ ท่านเลือกที่จะติดตั้งแก๊สเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหลักแทนน้ำมัน ไม่ว่าจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส LPG หรือ NGV ซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกที่ช่วยเซฟค่าน้ำมันได้มากเลยทีเดียว แล้วหากรถที่ติดตั้งแก๊สจะสามารถทำประกันภัยรถยนต์ได้หรือไม่? หรือควรเลือกประกันภัยชั้นไหน และจะยังได้รับความคุ้มครองหรือไม่ ยิ้มได้ประกันภัย จะพาไปหาคำตอบครับ
ประเภทแก๊สที่ใช้ติดตั้งมีกี่ชนิด
แก๊สรถยนต์ในปัจจุบันมีใช้งานอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่
1.แก๊ส LPG
หรือที่เรียกติดปากว่าแก๊สหุงต้มประกอบด้วยโพนเพน และบิวเทน มีลักษณะเป็นแก๊สปิโตรเลียมเหลวที่ได้มาจากการกลั่นน้ำมันดิบของโรงกลั่นน้ำมัน รวมถึงได้จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ แก๊สประเภทนี้ลักษณะเป็นของเหลว สามารถนำมาเป็นพลังงานทางเลือกใช้แทนน้ำมันดีเซลและเบนซิน
2.แก๊ส NGV
เป็นแก๊สธรรมชาติที่ได้มาจากการทับถมกันของซากพืชซากสัตว์ฟอสซิลเหมือนกันน้ำมันและถ่านหิน หรือเรียกอีกอย่างว่า แก๊สธรรมชาติอัด CNG (Compressed Natural Gas) มีส่วนประกอบหลักคือ มีเทน กล่าวคือนำมาอัดบรรจุในถังที่มีความแข็งแรง มีน้ำหนักน้อยกว่าแก๊ส LPG นำมาใช้เป็นพลังงานทางเลือกเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซิน หรือ ดีเซลในยานยนต์
ข้อแตกต่างระหว่างแก๊ส LPG และแก๊ส NGV | |
แก๊สทั้ง 2 ชนิด ต่างเป็นพลังงานทางเลือก
| |
ข้อดีของการติดตั้งแก๊ส NGV | ข้อเสียของรถติดแก๊ส NGV |
|
|
ข้อดีของรถติดแก๊ส LPG | ข้อเสียของรถติดแก๊ส LPG |
|
|
รถติดตั้งแก๊สทำประกันภัยรถยนต์ได้หรือไม่ และเลือกแบบไหนดี?
สำหรับรถยนต์ที่จะเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงจากน้ำมันเป็นแก๊ส LPG หรือ NGV นั้นก็ควรเลือกร้านที่ติดตั้งได้ตามมาตรฐาน และมีการรับรองอย่างถูกต้อง และต้องทำการแจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงที่กรมการขนส่งทางบก รวมถึงควรแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ก่อนทำประกันทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นหากเกิดความเสียหายขึ้นมาบริษัทประกันอาจไม่รับผิดชอบในส่วนของถังแก๊สที่ติดตั้งเพิ่มเติมนะครับ
ประกันภัยรถยนต์คุ้มครอง รถติดตั้งแก๊ส หรือไม่?
โดยปกติแล้วการทำประกันภัยรถยนต์ทั่วไป บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองกับรถยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบที่ติดมากับรถ ซึ่งการติดตั้งแก๊ส ถือเป็นการติดตั้งอุปกรณ์หลังจากที่ซื้อรถมาแล้ว ดังนั้นการติดตั้งแก๊สให้กับรถยนต์จึงเท่ากับว่าเป็นการแต่งรถนั่นเอง
ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วนั้น บริษัทประกันภัยอาจไม่รับความคุ้มครองรถแต่ง หรืออุปกรณ์ที่ตกแต่งเพื่อเพิ่มความเร็ว แต่การติดตั้งแก๊สไม่ได้อยู่ในอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อเพิ่มความเร็ว บริษัทประกันภัยจึงยังให้ความคุ้มครอง โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ทำประกันภัยจะต้องแจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบก่อนการซื้อประกันภัยรถยนต์ทุกครั้ง เพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนที่ตกแต่ง โดยทำตาม 4 ขั้นตอน ดังนี้
1.ยื่นใบเสร็จอุปกรณ์แต่งรถ หรือถ่ายภาพใบเสร็จเหล่านั้น ส่งให้บริษัทประกันภัย เพื่อประเมินราคา |
2.บริษัทประกันภัยจะคิดเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมในส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น |
3.ชำระค่าเบี้ย |
4.บริษัทประกันภัยจะออกกรมธรรม์เพิ่มเติม หรือสลักหลังให้เจ้าของกรมธรรม์ เป็นส่วนที่คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งรถที่เพิ่มขึ้น |
เพียงเท่านี้ก็สามารถเคลมกับบริษัทประกันภัยได้ตามที่ตกลงกันได้เลยครับ
ส่วนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับรถที่ติดตั้งแก๊ส ควรจะเป็นประกันภัยรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองในกรณีรถไฟไหม้ เนื่องจากรถติดแก๊สมีความเสี่ยงมากกว่ารถที่ใช้น้ำมันนั่นเอง โดยประกันภัยรถยนต์ดังกล่าวจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้รถทุกกรณี แต่จะมีความแตกต่างกัน คือ
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ซ่อมรถคันที่เอาประกันเฉพาะอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี
- ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 ไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถ
แต่ทั้ง 3 ประเภทยังให้ความคุ้มครองต่อคู่กรณี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงเงินประกันตัวผู้ขับขี่
การดูแลรถยนต์ติดตั้งแก๊ส
รถยนต์ที่ติดตั้งแก๊ส ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส LPG หรือ NGV ควรหมั่นดูแลและบำรุงรักษาให้อุปกรณ์อยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยมีวิธีตรวจเช็กรถติดตั้งแก๊ส ดังนี้
1.หมั่นตรวจเช็คว่ามีกลิ่นแก๊สรั่วออกมาจากรถยนต์หรือไม่ |
2.ตรวจเช็ค กล่อง ECU ที่ควบคุมระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ทุกๆ 5,000 – 10,000 กิโลเมตร |
3.ตรวจเช็คและตั้งระยะวาล์วใหม่อีกครั้ง เมื่อใช้รถไปได้ 40,000 กิโลเมตร |
4.ตรวจเช็ค ตัวกรองแก๊ส เพื่อป้องกันฝุ่น ป้องกันสนิม และควรเปลี่ยนทุกๆ 100,000 กิโลเมตร |
5.ตรวจเช็ค หัวฉีดแก๊ส โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ทุกๆ 3 ปี |
6.ตรวจเช็ค ถังแก๊ส หากพบว่าถังชำรุด หรือติดตั้งแก๊สครบ 10 ปีแล้ว ควรเปลี่ยนถังแก๊สใหม่ |
7.ตรวจเช็ค สายยางที่เชื่อมต่อระบบถังแก๊ส ด้วยการลูบฟองสบู่หารอยรั่ว หากสายยางรั่ว น้ำสบู่จะเป็นฟองอากาศขึ้นมา |
กรณีติดแก๊สแล้วประกันภัยไม่ให้ความคุ้มครอง
การติดตั้งแก๊สยังมีเงื่อนไขที่ผู้ขับขี่จำเป็นต้องทราบและปฏิบัติ ไม่เช่นนั้นทางบริษัทประกันภัยอาจไม่ให้ความคุ้มครองดังกรณีต่อไปนี้
ติดตั้งแก๊สรถยนต์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
แก๊ส LPG หรือ NGV ยังคงได้รับความนิยมในการใช้เป็นเชื้อเพลิงและมีผู้ให้บริการอยู่หลายเจ้า แต่หากผู้ขับขี่ติดแก๊สที่ตัวถังไม่มีคุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน มอก. หรือมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม บริษัทประกันภัยอาจไม่รับคุ้มครองในส่วนนี้ เนื่องจากแก๊สเป็นเชื้อเพลิงที่เสี่ยงเกิดเพลิงไหม้ได้ง่ายนั่นเอง
ไม่แจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบ
หากผู้ที่ทำประกันภัยติดตั้งแก๊สหลังจากที่ทำประกันภัยรถยนต์ไปแล้วและไม่แจ้ง หรือไม่ดำเนินการส่งเอกสารให้บริษัทประกันภัยรถยนต์ทราบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาผู้ที่ทำประกันจะไม่มีสิทธิ์เคลมในส่วนนี้นะครับ
ไม่แจ้งให้กรมการขนส่งทางบกทราบ
ติดตั้งแก๊สแล้วไม่ได้แจ้งกรมการขนส่งทางบกให้ได้ทราบ ทางบริษัทประกันภัยก็ไม่ให้ความคุ้มครองเช่นเดียวกัน
สำหรับใครที่มีรถยนต์ติดตั้งแก๊สไม่ต้องกังวลใจไป เพราะหากเจ้าของรถแจ้งกับทางบริษัทประกันภัยก็จะได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นอนครับ ใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด