อันตรายหรือไม่? เครื่องสั่นขณะขับรถ เช็กด้วยตนเองทำอย่างไร

March 10, 2025 รถยนต์ อันตรายหรือไม่? เครื่องสั่นขณะขับรถ เช็กด้วยตนเองทำอย่างไร

     ขับรถแล้วรู้สึกได้ว่าเครื่องยนต์มีความสั่นหรือสั่นสะเทือนในบางช่วงเวลาที่เราขับขี่ ถือว่าเป็นปัญหาที่คนมีรถไม่ควรจะมองข้าม เพราะว่านั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดการส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ได้ในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์เริ่มมีอาการสั่นสะเทือน หรือว่าเกิดเสียงแปลกๆ ขณะที่เราขับขี่จะต้องใส่ใจและหาสาเหตุก่อนที่จะสายเกินไป เราไปดูกันดีกว่าเครื่องยนต์สั่นเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง

สัญญาณที่บ่งบอกว่าเครื่องยนต์สั่น

  • พวงมาลัยสั่น โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง
  • การสั่นในที่นั่ง โดยเฉพาะเมื่อหยุดรถหรือขับที่ความเร็วต่ำ
  • การสั่นที่เสียงเครื่องยนต์ เช่น เสียงกระทบหรือเสียงที่แปลกจากเครื่องยนต์
  • การสั่นขณะเปลี่ยนเกียร์ หรือเมื่อระบบเกียร์ทำงานผิดปกติ
ฟิตเครื่องยนต์คืออะไร? ฟิตยังไงใช้ได้นาน? | SMILE INSURE

เครื่องยนต์สั่น เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?

1. ปัญหาจากระบบจุดระเบิด (Ignition System)

  • สาเหตุ: หากมีปัญหากับหัวเทียน, คอยล์จุดระเบิด, หรือสายหัวเทียนที่ชำรุด อาจทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้เครื่องยนต์สั่นหรือสะดุด
  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบและเปลี่ยนหัวเทียนหรือคอยล์จุดระเบิดที่เสื่อมสภาพ, ตรวจสอบสายหัวเทียนเพื่อความสมบูรณ์

2. ปัญหาจากระบบการจ่ายน้ำมัน (Fuel System)

  • สาเหตุ: ฟิลเตอร์น้ำมันอุดตัน, ปั๊มน้ำมันไม่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หรือการจ่ายน้ำมันไม่เพียงพอทำให้การเผาไหม้ในเครื่องยนต์ไม่สมบูรณ์
  • วิธีแก้ไข: ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนฟิลเตอร์น้ำมัน, ตรวจสอบปั๊มน้ำมันและท่อการจ่ายน้ำมันให้สามารถไหลได้ตามปกติ

3. ปัญหาจากการไหลเวียนของอากาศ (Air Intake System)

  • สาเหตุ: หากกรองอากาศสกปรกหรือท่อไอดีมีการรั่ว ระบบการดูดอากาศจะไม่สามารถทำงานได้ดี ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและเกิดการสั่น
  • วิธีแก้ไข: ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนกรองอากาศ, ตรวจสอบและซ่อมแซมท่อไอดีหากพบการรั่ว
วิธีขับรถเกียร์ออโต้ครั้งแรก พร้อมวิธีเปลี่ยนเกียร์ ขึ้นเขา ถอยหลัง  ฉบับมือใหม่

4. ปัญหาจากระบบเกียร์ (Transmission System)

  • สาเหตุ: ระบบเกียร์ที่หลวม หรือมีการเสื่อมสภาพของน้ำมันเกียร์อาจทำให้เกิดการสั่นเมื่อเปลี่ยนเกียร์ หรือขับขี่ในสภาพที่เกียร์ไม่สมบูรณ์
  • วิธีแก้ไข: เปลี่ยนหรือเติมน้ำมันเกียร์, ตรวจสอบเกียร์ให้ทำงานได้ตามปกติ และหากมีปัญหาควรซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเกียร์

5. ปัญหาจากระบบกันสะเทือน (Suspension System)

  • สาเหตุ: หากชิ้นส่วนของระบบกันสะเทือน เช่น โช้คอัพ หรือสปริงมีความเสียหาย ก็สามารถทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในขณะขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับผ่านพื้นถนนที่ไม่เรียบ
  • วิธีแก้ไข: เปลี่ยนโช้คอัพที่ชำรุด, ตรวจสอบและซ่อมแซมสปริง หรือชิ้นส่วนอื่นๆ ของระบบกันสะเทือนที่เสียหาย

6. ปัญหาจากยางและล้อ (Tires and Wheels)

  • สาเหตุ: หากล้อไม่สมดุล หรือยางมีการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดการสั่นในขณะขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อขับที่ความเร็วสูง
  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบการตั้งล้อ (alignment), เช็คการบาลานซ์ล้อ, เปลี่ยนยางที่สึกหรอหรือไม่สมดุล

7. ปัญหาจากเครื่องยนต์ม้านั่ง (Engine Mounts)

  • สาเหตุ: ยางรองเครื่องยนต์ที่เสื่อมสภาพหรือเสียหายอาจทำให้เครื่องยนต์เคลื่อนที่หรือสั่นมากกว่าปกติ
  • วิธีแก้ไข: เปลี่ยนยางรองเครื่องยนต์ (engine mounts) ใหม่หากพบว่ามีการสึกหรอหรือเสียหาย

8. ปัญหาจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ (Internal Engine Wear)

  • สาเหตุ: การสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ เช่น ลูกสูบ, แหวนลูกสูบ, วาล์ว หรือแคมเพลย์ สามารถทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่ราบรื่นและเกิดการสั่น
  • วิธีแก้ไข: หากพบว่ามีการสึกหรอ ควรตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพ หรือซ่อมแซมเครื่องยนต์

ทำไมต้องเปลี่ยนไส้กรองและน้ำมันเครื่องพร้อมกัน? อ่านเพิ่มเติม คลิก!

 

สรุป

การที่เครื่องยนต์สั่นขณะขับรถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาจากระบบจุดระเบิด, ระบบจ่ายน้ำมัน, ระบบเกียร์, ระบบกันสะเทือน, ยางและล้อ, หรือแม้กระทั่งการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ การตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงและการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ การนำรถไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่เชื่อถือได้ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสภาพรถให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน