อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีประกันภัยติดรถเอาไว้ แต่ผู้ขับขี่หลายคนมักจะคิดว่า “เคลมประกันภัยรถยนต์จะเคลมกี่ครั้งก็ได้ เคลมเท่าไหร่ก็ได้เพราะทางบริษัทประกันภัยก็จะจ่ายอยู่ดี” ซึ่งไมได้เป็นแบบนั้นเสมอไปนะครับ
ถึงว่าเราจะเลือกทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 และความคุ้มครองที่ครอบหลุมอยู่แล้ว แต่จริงๆ การเคลมประกันก็มีเงื่อนไขที่ทางบริษัทประกันภัยเป็นผู้กำหนด โดยที่รายละเอียดจะอยู่ในกรมธรรม์อย่างชัดเจน
ประเภทของการแจ้งเคลมประกันมี 2 แบบ
เคลมประกันแบบสด | การแจ้งเคลมประกันทันทีในที่เกิดเหตุ รวมถึงการเรียกพนักงานบริษัทประกันภัยมาตรวจสอบความเสียหายที่เกิดเหตุเบื้องต้น พร้อมกับดูว่าฝั่งไหนเป็นฝ่ายผิด และถ่ายรูปเป็นหลักฐานพร้อมกับออกเอกสารการเคลมประกันรถ |
เคลมประกันแบบแห้ง | หลายคนนิยมเรียกกันว่า “เคลมประกันรอบคัน” คือ การที่ผู้เอาประกันนำรถเข้าไปเคลมด้วยตนเอง ส่วนใหญ่มักเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี และไม่รุนแรงมากนัก เช่น ขับรถชนฟุตบาท สิ่งกีดขวางต่างๆ แต่ต้องแจ้งรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน
|
หากใบขับขี่หมดอายุ จะเคลมประกันได้หรือไม่? อ่านเพิ่มเติม คลิก!!
แจ้งเคลมบ่อยมีผลเสียอย่างไร?
หลายคนอาจเข้าใจว่า การมีประกันไว้ เคลมเมื่อไหร่ก็ได้ เดี๋ยวประกันก็จ่ายให้ แต่รู้หรือไม่ว่า การเคลมประกันบ่อยๆ นั้น ส่งผลเสียตามมาหลายอย่าง
1. เบี้ยประกันแพงขึ้น:
- บริษัทประกันจะมองว่า คุณมีความเสี่ยงสูง เกิดอุบัติเหตุบ่อย จึงต้องปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
- โดยทั่วไปแล้ว หากเคลมประกัน 2 ครั้งขึ้นไปในปีเดียว หรือ เคลมแล้วค่าเสียหายรวมกันเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัย คุณจะไม่ได้รับส่วนลดประวัติดีสำหรับปีถัดไป ส่งผลให้เบี้ยประกันแพงขึ้น
2. เสียสิทธิ์ในการต่ออายุกรมธรรม์:
- กรณีที่มีการเคลมประกันบ่อยๆ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นฝ่ายผิด บริษัทประกันอาจพิจารณาไม่ต่ออายุกรมธรรม์ของคุณ
- เพราะมองว่าคุณมีความเสี่ยงสูง เกิดอุบัติเหตุบ่อย เคลมบ่อย ส่งผลเสียต่อธุรกิจของบริษัท
3. ถูกขึ้นบัญชีดำ:
- กรณีที่มีการเคลมประกันบ่อยๆ โดยเฉพาะกรณีที่เป็นฝ่ายผิด
- คุณอาจถูกขึ้นบัญชีดำจากบริษัทประกัน
- ส่งผลให้ยากต่อการหาประกันใหม่
4. เสียเวลา:
- การเคลมประกันแต่ละครั้ง ต้องใช้เวลาดำเนินการ เอกสาร หลักฐาน
- รอการตรวจสอบจากบริษัทประกัน
- ซ่อมแซมรถ
- ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาและความสะดวก
จริงหรือไม่!? เคลมประกันบ่อยแล้วโดนเพิ่มค่าเบี้ยประกัน
เจ้าของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์คงเข้าใจกันอยู่แล้วว่า หน้าที่หลักของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ คือ การกระจายความเสี่ยงซึ่งการเคลมประกันภัยรถยนต์ ก็ตอบโจทย์ความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี ซึ่งสาเหตุที่บริษัทประกัน เพิ่มค่าเบี้ยประกันภัยอาจเป็นเพราะ เจ้าของกรมธรรม์มีพฤติกรรมในการขับรถที่เสี่ยงหรือไม่ดี เป็นฝ่ายผิดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อมีการเคลมประกันภัย หรืออาจเคลมบ่อยเกินขีดจำกัดของวงเงินสูงสุดที่ถูกระบุเอาไว้ในกรมธรรม์เพื่อไม่ให้ขาดทุน บริษัทจึงมักจะเพิ่มค่าเบี้ยประกันในปีถัดไป
แม้ว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมแล้วก็จริง แต่การขับขี่ด้วยความระมัดระวังก็สามารถช่วยให้ลดการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย และลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน และ ยังมีผลต่อเบี้ยประกันอีกด้วย หากขับขี่ไม่ประมาท มีสติ เคารพกฎจราจร สร้างประวัติการขับขี่ที่ดี ก็จะช่วยประหยัดค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ได้มากถึง 20% - 50% เลยทีเดียว
สำหรับใครที่ยังไม่มี ประกันภัยรถยนต์ หรือไม่รู้ว่าจะทำที่ไหนดี สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อให้คุณได้ประกันภัยที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับความคุ้มครองดีที่สุด