รถติดต้องใส่เกียร์ไหน เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันให้รถของคุณ

July 26, 2022 รถยนต์ รถติดต้องใส่เกียร์ไหน เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันให้รถของคุณ

     รถติดนานๆ น้ำมันในถังก็เหลือน้อยนิดเหยียบเบรกจนรถกินน้ำมันไปเยอะ และในยุคเศรษฐกิจแบบนี้คนใช้รถใช้ถนนจะให้ความสำคัญกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถตัวเองอยู่ไม่น้อยและในปัจจุบันหลายท่านใช้รถเกียร์อัตโนมัติ ก็มักจะเข้าใจว่าการปลดเกียร์ว่าง N แล้วปล่อยให้รถไหลตามแรงเฉื่อยก่อนถึงไฟแดงนั้น จะช่วยประหยัดน้ำมันได้  แต่จะช่วยประหยัดขนาดไหน ยิ้มได้ประกันภัย มีคำตอบมาให้ทุกท่านทราบกันครับ

เกียร์แต่ละชนิดใช้ทำอะไรบ้าง

  • ตำแหน่งเกียร์ P ใช้จอดรถปกติ จอดบริเวณที่ลาดชัน และจอดรถโดยไม่กีดขวางรถคันอื่น เมื่อจอดแล้วรถไม่สามารถเลื่อนได้
  • ตำแหน่งเกียร์ R ใช้เวลารถถอยหลัง เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เท้าเหยียบเบรกทุกครั้งที่เข้าเกียร์ เมื่อเหยียบแล้วค่อยๆ ผ่อนเท้า ให้รถถอยหลังอย่างช้าๆ
  • ตำแหน่งเกียร์ N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้สำหรับการหยุดรถชั่วคราวในบริเวณที่ราบ เช่น รถติดไฟแดงนานๆ หรือจอดรถในตำแหน่งที่กีดขวางเส้นทางจราจร หรือจอดรถซ้อนคันเพื่อให้สามารถเลื่อนไปข้างหน้าและหลังได้
  • ตำแหน่งเกียร์ D ใช้เวลาขับรถเดินหน้าปกติ
  • ตำแหน่งเกียร์ 2 ใช้เมื่อรถขึ้นทางลาดชันที่ไม่สูงมากสามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร
  • ตำแหน่งเกียร์ L ใช้ความเร็วต่ำ สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก
5 สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อขับรถเกียร์ออโต้..!

รถติดต้องใช้เกียร์ใดเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน 

     ซึ่งโดยปกติแล้วเวลารถติดไฟแดง คนส่วนใหญ่มักจะใส่เกียร์ D แล้วจะเหยียบเบรกค้างเอาไว้ แต่ถ้ารถติดนานๆ ก็อาจจะเข้าเกียร์ว่าง N ให้รถอยู่นิ่งๆ โดยที่ไม่ต้องคอยเหยียบเบรก ซึ่งการกระทำทั้ง 2 แบบนั้นจะส่งผลต่ออัตราการเผาผลาญน้ำมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

  • ใส่เกียร์เดินหน้า D แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ อัตราสิ้นเปลืองจะอยู่ที่ประมาณ 2.8 ลิตรต่อชั่วโมง
  • ใส่เกียร์ว่าง N พบว่าอัตราสิ้นเปลืองลดลงเหลือประมาณ 2 ลิตรต่อชั่วโมงเท่านั้น

     จะเห็นได้ว่าอัตราสิ้นเปลืองของทั้ง 2 แบบนั้น ต่างกันถึง 0.8 ลิตรเลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมัน ในส่วนต่างของอัตราสิ้นเปลืองที่ได้จากการใช้เกียร์ทั้ง 2 แบบนั้น จะแตกต่างไปตามรถแต่ละรุ่น แต่ก็จะแสดงให้เห็นว่าการใส่เกียร์เดินหน้า D ไว้ขณะรถติดไฟแดงทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นพอสมควรเลยทีเดียว

     แต่!! การสลับเกียร์ระหว่าง D และ N บ่อยๆ อาจส่งผลต่อการสึกหรอของระบบเกียร์ไม่มากก็น้อย ทางที่ดีผู้ขับขี่ควรตัดสินใจจากสภาพการจราจรในขณะนั้นว่าควรใช้เกียร์ไหนถึงจะดีที่สุด นอกจากการเลือกใช้เกียร์ที่จะช่วยประหยัดน้ำได้แล้วยังมีอีก 6 วิธีเบื้องต้นที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกนะครับ 

อ่านเพิ่มเติม คลิก>> 6 วิธีประหยัดน้ำมันเบื้องต้น

 

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ ให้ถูกต้องสำหรับมือใหม่

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ให้ถูกต้อง

     บางท่านมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้เกียร์ออโต้ ซึ่งอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของรถได้โดยไม่รู้ตัว การเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N ในเวลาที่รถติดไฟแดงบ่อยๆ นั้นหลายคนอาจคงเคยปฏิบัติกันเนื่องจากเวลารถติดแล้วขี้เกียจเหยียบเบรคก็จะเข้าเกียร์ N ไว้ เมื่อรถเคลื่อนที่ก็เปลี่ยนเป็นเกียร์ D  หากเปลี่ยนสลับกันบ่อยนั้นอาจส่งผลให้เกียร์มีการสึกหรอ อายุการใช้งานสั้นลงได้นะครับ

 

รถเกียร์ออโต้สตาร์ทเครื่องยนต์ ยังไงให้ปลอดภัย

     สำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรเหยียบเบรกไว้ก่อนจากนั้นค่อยเลือกเกียร์ในตำแหน่งที่ต้องการเพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ไปได้ เพราะว่าท่านต้องดูว่าเกียร์รถอยู่ในตำแหน่งเกียร์ P หรือไม่ เพราะถ้าเข้าเกียร์อื่นๆ ทิ้งเอาไว้ก่อนดับเครื่องไม่ว่าจะเป็นเกียร์ D เกียร์ N หรือเกียร์ R ก็ตาม เมื่อกลับมาใช้งานรถอีกครั้ง พอเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์อาจทำให้รถเคลื่อนที่ตามเกียร์ที่เราตั้งเอาไว้ก่อนลงจากรถ

 

จอดรถเกียร์ออโต้หากไม่ดับเครื่องจะมีผลอย่างไรตามมา

     เวลาจอดรถเพื่อลงไปทำธุระ ไม่ควรเข้าเกียร์ N หรือเกียร์ว่างเอาไว้ เพราะว่ารถจะมีโอกาสเคลื่อนที่ไหลไปด้านหลังได้ ดังนั้นหากจะต้องจอดรถยนต์ทุกครั้งต้องใช้เกียร์ P หรือควรดับเครื่องยนต์ทุกครั้งเวลาจอดรถเป็นอย่างยิ่ง

 

     อย่างไรก็ตาม การใช้เกียร์ที่เหมาะสมกับสถานการ ช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยรักษาเครื่องยนต์ให้มีอายุยาวนาน ไม่พังง่าย และไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าอุบัติเหตุเลี่ยงไม่ได้ มีประกันภัยรถยนต์เอาไว้ก็ช่วยความอุ่นใจตลอดการเดินทางได้เช่นกัน

 

สำหรับท่านใดที่ยังไม่มีประกันภัยรถยนต์ หรือไม่รู้จะเช็คเบี้ยประกันภัยที่ใด สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด