ยางรถแบบนี้! บอกเลยเสี่ยงอันตราย
ยางรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ เพราะเป็นจุดเดียวที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ไม่ว่าจะเบรก เร่ง หรือเลี้ยว ล้วนขึ้นอยู่กับ “ยาง” ทั้งสิ้น แต่เจ้าของรถหลายคนมักละเลยการตรวจสอบสภาพยาง ทำให้ยางเสื่อมสภาพและกลายเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุร้ายแรงได้

วันนี้เรามาดูกันว่า สัญญาณเตือนของยางรถที่เสื่อมสภาพและเสี่ยงอันตราย มีอะไรบ้าง
1. รอยแตกที่แก้มยาง
หากสังเกตเห็นรอยแตกเล็ก ๆ หรือเส้นร้าวตามแก้มยาง อย่ามองข้ามเด็ดขาด เพราะนั่นหมายความว่ายางเริ่มเสื่อมจากสภาพอากาศ ความร้อน หรืออายุการใช้งาน หากยังขับต่อไปอาจทำให้ยางระเบิดได้
2. ยางบวมจากการกระแทก
ยางที่มีลักษณะบวมโป่งขึ้นมา เกิดจากการชนขอบฟุตบาท หลุม หรือสิ่งกีดขวาง ทำให้โครงสร้างภายในยางเสียหาย หากยังใช้งานต่อไปอาจแตกกลางทางทันที
3. ถูกของมีคมตำทะลุ
แม้จะเป็นรูเล็ก ๆ จากตะปูหรือตะปูเกลียว ก็อาจทำให้ยางรั่วซึมหรือแตกในอนาคตได้ หากพบควรนำไปปะหรือเปลี่ยนทันที ไม่ควรละเลย เพราะอาจส่งผลตอนขับด้วยความเร็วสูง
4. แก้มยางหลุดจนเห็นชั้นผ้า
หากยางเริ่มขาดหรือแตกจนเห็นเส้นใยด้านใน แสดงว่ายางหมดอายุการใช้งานแล้ว ห้ามนำกลับมาใช้อีก เพราะอันตรายอย่างมาก
5. หน้ายางฉีกขาดจนเห็นชั้นผ้า
หน้ายางที่ฉีกหรือสึกจนถึงโครงด้านในคือสัญญาณเตือนขั้นวิกฤต เพราะหน้ายางจะไม่สามารถยึดเกาะถนนได้อีกต่อไป เสี่ยงต่อการลื่นไถลหรือยางแตกได้ทุกเมื่อ
6. ดอกยางหลุดออกที่หน้ายาง
หากหน้ายางเริ่มหลุดหรือ剥 (剥ออก) จากเนื้อยาง ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่ายางเสื่อมสภาพอย่างหนัก ต้องรีบเปลี่ยนทันที
ทำไมต้องใส่ใจสภาพยาง?
- ยางที่เสื่อมสภาพ = เพิ่มระยะเบรก ทำให้หยุดรถไม่ทัน
- ยางไม่สมบูรณ์ = ควบคุมรถยาก โดยเฉพาะในถนนเปียก
- เสี่ยงยางระเบิดกลางทาง = อาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
เคล็ดลับดูแลยางให้ปลอดภัย
- ตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำทุกเดือน
- เช็กความดันลมยางตามมาตรฐาน
- สลับยางทุก ๆ 10,000 กม. เพื่อยืดอายุการใช้งาน
- เปลี่ยนยางใหม่ทุก 3–5 ปี หรือเร็วกว่านั้นหากพบความผิดปกติ
สรุป
ยางรถยนต์ไม่ใช่แค่ชิ้นส่วนธรรมดา แต่คือเกราะป้องกันชีวิตคุณและคนที่คุณรัก หากพบว่ายางมีสัญญาณเสื่อมสภาพตามที่กล่าวมา ควรรีบแก้ไขหรือเปลี่ยนทันที เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
