ความประมาทของผู้ขับขี่ มาพร้อมกับอุบัติเหตุที่ตามมาเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะขับรถเก่งขนาดไหน แต่ความประมาท หรือพลาดพลั้ง ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดต่อตัวรถหรือทรัพย์สินของเราเองแล้ว ยังคงรวมไปถึงทรัพย์สินสาธารณะหรือ "ของหลวง" อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟฟ้า ต้นไม้ข้างทาง ป้ายจราจร ราวสะพาน และเสาสัญญาณไฟฟ้า เป็นต้น แต่ในกรณีที่เราไปชนของหลวงหล่ะ ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบ เจ้าของรถ หรือ บริษัทประกันภัย ยิ้มได้ประกันภัยจะพาไปหาคำตอบกันครับ
ขับรถชนของหลวง มีความผิดหรือไม่?
เมื่อผู้ขับขี่เกิดขับรถประสบอุบัติเหตุชนจนทำให้ของหลวงได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟฟ้า หรือป้ายจราจร ซึ่งจะมีหน่วยงานภาครัฐเป็นผู้รับผิดชอบดูแลอยู่ ซึ่งทางเจ้าของรถจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่หน่วยงานนั้นๆ
อีกทั้งยังมีความผิดจากการสร้างความเสียหายสาธารณสมบัติ โดยจะอยู่ในประมวลกฏหมายอาญา หมวด 7 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ในมาตรา 360 “ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ขับรถชนของหลวงเสียค่าปรับเท่าไหร่?
เสาไฟฟ้าเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การดูแลของการไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยที่ค่าปรับจะประเมินจากความสูงของเสาไฟฟ้าและกำลังไฟ ดังนี้
| |
เสาสัญญาณไฟจราจรทุกประเภท ค่าปรับเริ่มต้นที่ 8,000-15,000 บาท/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดของเสา อุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเสา และสภาพความเสียหาย | |
ป้ายจราจรขับรถชนป้ายทางหลวงหรือป้ายจราจร ค่าปรับเริ่มต้นที่ 1,000-3,000 บาท/ป้าย ขึ้นอยู่กับขนาดป้าย ประเภทของป้าย ความเสียหาย และค่าแรงติดตั้ง | |
แบริเออร์ขับรถชนแบริเออร์ ค่าปรับเริ่มต้นที่ 800-1,500 บาท/ชิ้น ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่ใช้ ค่าแรงติดตั้ง และจำนวนแบริเออร์ที่เสียหาย | |
แผงกั้นจราจรค่าปรับเริ่มต้นที่ 1,000-1,500 บาท/ชิ้น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ ขนาด อุปกรณ์ และจำนวนของแผงกั้นที่เสียหาย | |
กรวยจราจรค่าปรับเริ่มต้นที่ 200-800 บาท ขึ้นอยู่กับราคาสุทธิของอุปกรณ์ และจำนวนกรวยที่เสียหาย | |
ต้นไม้ริมทางหลวงต้นไม้ถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตและเทศบาล มีค่าปรับเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับพันธุ์ของต้นไม้ อายุขัยของต้นไม้ และจำนวนต้นไม้ที่เสียหาย |
ทำไมต้องเสียค่าปรับ?
- ความรับผิดชอบ: ผู้ขับขี่เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหาย จึงต้องรับผิดชอบในการชดใช้
- ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ: การเรียกเก็บค่าปรับจะทำให้ผู้ขับขี่ระมัดระวังมากขึ้น
- บำรุงรักษาสิ่งสาธารณะ: เงินที่ได้จากการเรียกเก็บค่าปรับจะนำไปใช้ในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาสิ่งของที่เสียหาย
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ควรทำอย่างไร?
- อย่าหนี: การหลบหนีจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และอาจถูกดำเนินคดีอาญาได้
- แจ้งเจ้าหน้าที่: แจ้งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
- ติดต่อประกัน: หากมีประกันภัยรถยนต์ ให้ติดต่อบริษัทประกันเพื่อแจ้งความเสียหาย
- ชดใช้ค่าเสียหาย: ชำระค่าเสียหายตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกเก็บ
ขับรถชนของหลวงประกันจ่ายหรือไม่?
ในกรณีขับรถชนของหลวงไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม ประกันรถยนต์ที่เราทำเอาไว้จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าปรับตามทุนประกันที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ แต่มีข้อจำกัดคือต้องเป็นประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 เท่านั้น! และในส่วนประกันภัยรถยนต์ ชั้นอื่นๆ จะไม่มีการรับผิดชอบการชนแบบไม่มีคู่กรณี
ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น ผู้ขับขี่ควรจะขับรถด้วยความระมัดระวังเพื่อตนเองและเพื่อนร่วมทางท่านอื่นๆ ด้วย
สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด