จากสถานการณ์ฝนตกหนักจนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ทำให้หลายท่านต้องขับรถลุยน้ำท่วมเพื่อฝ่าไป แต่จะขับอย่างไรให้ปลอดภัยและช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดเครื่องยนต์ดับระหว่างทาง หรือรถพังนั่นเอง ยิ้มได้ประกันภัยมีวิธีดีๆ มาแนะนำให้ทุกทราบกันครับ
6 วิธีขับรถลุยน้ำท่วมป้องกันรถพัง
1.ปิดแอร์
หากเปิดแอร์ไว้พัดลมระบายความร้อนหม้อน้ำจะทำงานเจอน้ำท่วมตัวพัดลมจะตีน้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง ไฟช็อตแล้วรถจะดับแถมยังเสี่ยงใบพัดลมหัก
2.ใช้เกียร์ต่ำ
หากเป็นเกียร์ธรรมดาให้อยู่ ช่วงเกียร์ 1-2 เพราะรถต้องใช้แรงในการฝ่าน้ำควบคุมความเร็วรถให้ต่ำรถเบาดับยากที่สุด สำหรับใครที่ใช้เกียร์อัตโนมัติก็ให้ปรับมาใช้ เกียร์ L (Low) ไว้เสมอ
3.ลดความเร็ว
หากขับรถมีความเร็วผ่านบริเวณน้ำขัง รถจะเบาและอาจเสียการทรงตัวได้ แล้วจะรู้ได้ไงว่าระดับน้ำขนาดไหนที่จะขับผ่านไปได้ ถ้าเป็นรถเก๋งก็ดูความสูงของระดับน้ำไม่เกิน 30 ซ.ม. หรือประมาณครึ่งล้อ หากยังขืนลุยต่อโอกาสเครื่องดับก็มีสิทธิ์สูงมากเลยนะครับ
4.รักษาระยะห่าง
ระบบเบรกแช่น้ำอยู่ ประสิทธิภาพต่ำลงและถ้าพ้นน้ำให้ขับช้าๆ และเบรกเป็นช่วงๆ เพื่อให้ผ้าเบรกแห้ง และสุดท้ายหากเครื่องดับกลางน้ำให้หาคนช่วยย้ายรถไปตำแหน่งที่น้ำไม่ท่วม และอย่าสตาร์ทรถ เพราะยิ่งสตาร์ทน้ำจะยิ่งเข้าระบบเครื่องยนต์
5.ขับพ้นน้ำเหยียบเบรกย้ำๆ
ไล่น้ำออกจากคาลิปเปอร์ - ผ้าเบรก แถมเป็นการเช็คระบบว่ายังใช้งานได้ปกติดีหรือไม่
6.จอดรถอย่าดับเครื่องทันที
หากจอดรถหลังพึ่งลุยน้ำมาเสร็จ ห้ามดับเครื่องทันทีเพราะต้องระวังน้ำที่ค้างและชื้นในห้องเครื่องรวมไปถึงท่อไอเสียหากดับเครื่องทันทีอาจะมีน้ำค้างท่อย้อนเข้ามาได้
ทั้งนี้ หากเครื่องยนต์ดับกลางทาง อย่าสตาร์ทรถใหม่ หารถลาก หรือพยายามเข็นรถให้พ้นจากระดับน้ำที่สูงไปก่อน โดยระดับน้ำควรสูงไม่เกินครึ่งล้อรถยนต์จึงจะปลอดภัย เพราะถ้าหากสตาร์ทใหม่ตรงบริเวณน้ำท่วมสูงจะยิ่งทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น เพราะฉะนั้นก่อนลุยน้ำอย่าลืมประเมินและดูอย่างรอบคอบกันด้วยนะครับ
