ตามกฏจราจรแล้วการขับรถยนต์ในช่องทางที่กำหนดก็จะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง หากว่าเมื่อไหร่ที่ไหล่ทางโล่งกว่าถนนปกติ อย่าคิดจะขับไหล่ทางเด็ดขาด หากขับไปแล้วก็มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้เช่นกัน
ดังนั้น เราไม่ควรทำผิดกฏจราจร โดยการฝ่าฝืนไปขับรถยนต์ในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง โดยทั้งนี้ตามกฏหมาย พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ในมาตรา 103 ได้ระบุเอาไว้ว่า
“ทางใดที่มีทางเท้าหรือไหล่ทางอยู่ข้างทางเดินรถให้คนเดินเท้าเดินบนทางเท้าหรือไหล่ทาง ถ้าทางนั้นไม่มีทางเท้าอยู่ข้างทางเดินรถให้เดินริมทางด้านขวาของตน”
ถนนบนไหล่ทางมีไว้สำหรับเพื่อเป็นพื้นที่ให้รถยนต์ที่เกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ เอาไว้จอดรถเมื่อรถเสียหรือใช้จอดเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ โดยจะต้องใช้กรวยจราจรตั้งเอาไว้เพื่อเตือนไม่ให้รถยนต์ที่ขับตามมาขับชนท้ายได้นั่นเอง
ผลเสียเมื่อจอดรถบนไหล่ทาง…
1.เสี่ยงต่อการเกิดชนท้าย
เนื่องจากการจอดรถบนไหล่ทางหากไม่มีการตั้งกรวยจราจรเพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าให้ระวังรถบริเวณนี้ ดังนั้นรถที่ขับบนไหล่ทางอาจจะขับชนท้ายทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
2.ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี
เมื่อรถติดไฟแดงทีไร ผู้ขับขี่บางคนมักจะชอบขับแซงซ้ายวิ่งบนไหล่ทาง การขับรถบนไหล่ทางทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี เพราะการขับแซงทางซ้ายขึ้นไปเสี่ยงต่อการขับชนท้ายรถที่จอดเสียหรือสิ่งก่อสร้าง กีดขวาง ที่อยู่บนไหล่ทาง เนื่องจากอาจจะมองไม่เห็นหรือหลบไม่ทัน ดังนั้นไม่ควรขับรถบนไหล่ทางจะดีที่สุดครับ
3.ผิวถนนไม่ราบเรียบ
ผิวถนนเป็นไหล่ทางที่ไม่ราบเรียบเหมือนกับผิวถนนที่อยู่ในเส้นทางปกติ เนื่องจากอาจจะมีการปรับพื้นถนนใหม่ ไหล่ทางทำยังไม่เสร็จ และพื้นผิวถนนยังไม่สมบูรณ์ มีความเป็นหลุมเป็นบ่อหรือขรุขระทำให้อันตรายต่อการขับขี่ก็เป็นได้ ยิ่งเวลาในช่วงหน้าฝนหากขับรถบนไหล่ทางจะควบคุมได้ยากกว่าเส้นทางปกติทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
4.ไหล่ทางมักจะมีสิ่งกีดขวาง
ถนนไหล่ทางในบางทีอาจมีสิ่งกีดขวาง เช่น ป้ายจราจร หรือ หลักกิโลเมตรบอกระยะทาง กรวยจราจร ที่ตั้งไว้ ทำให้การขับรถบนไหล่ทางก็ถือว่าอันตรายมากๆ เลยทีเดียว
หากขับรถบนไหล่ทางแล้วชน ประกันภัยจะรับผิดชอบหรือไม่?
การขับรถบนไหล่ทางเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอันตราย
เพราะไหล่ทางไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการขับขี่ และมักมีสภาพพื้นผิวที่ไม่เรียบเสมอกัน อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย หากเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถบนไหล่ทาง ประกันภัยจะรับผิดชอบหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
สาเหตุของอุบัติเหตุ
- หากเป็นฝ่ายผิด: ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถโดยประมาท หรือหลับใน การขับรถบนไหล่ทางโดยไม่มีเหตุจำเป็นถือเป็นความผิด และประกันภัยอาจไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของตนเอง
- หากเป็นฝ่ายถูก: หากมีหลักฐานยืนยันว่าคู่กรณีเป็นฝ่ายขับรถบนไหล่ทางและเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ ประกันภัยของคู่กรณีอาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
ประเภทของประกันภัยรถยนต์ | |
ประกันภัยชั้น 1 | โดยทั่วไปจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด รวมถึงกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจากการขับรถบนไหล่ทาง แต่ก็ต้องพิจารณาเงื่อนไขในกรมธรรม์อีกครั้ง |
ประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ | มักจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายต่อรถของคู่กรณี และค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกเท่านั้น หากเป็นฝ่ายผิดเอง อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองในส่วนของรถตัวเอง |
ประกันภัยภาคบังคับ (พรบ.) | คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเท่านั้น ไม่ได้คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ |
ข้อควรระวังเพิ่มเติม
- การจอดรถบนไหล่ทาง: แม้จะเป็นการจอดรถ แต่หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ก็อาจถูกมองว่าเป็นการกีดขวางการจราจร และอาจไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย
- การใช้ไหล่ทางในกรณีฉุกเฉิน: ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ไหล่ทาง เช่น รถเสีย ควรเปิดไฟฉุกเฉิน และติดป้ายเตือนให้รถคันอื่นระวัง
สรุป..
การขับรถบนไหล่ทางเป็นการกระทำที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และอาจทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการขับรถบนไหล่ทางเสมอ หากจำเป็นต้องใช้ไหล่ทาง ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น
สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด