อีกแปปเดียวก็จะใกล้หมดปี 2567 แล้ว ใกล้เทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่แล้วหลายท่านคงจะเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่กัน สำหรับท่านใดที่มีแพลนเดินทางระยะไกลเพื่อท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาในช่วงหยุดยาว ก็สามารถทำการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองได้ แต่เพื่อความปลอดภัยก่อนออกเดินทางไกลควรทำการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองได้ง่ายๆ เพียงทำตามขั้นตอนตรวจสภาพรถยนต์ ดังต่อไปนี้
ขับรถทางไกลครั้งแรก ต้องเช็กอะไรบ้าง?
1.ยางรถยนต์
สิ่งสำคัญที่ควรเช็คก่อนจะขับรถทางไกล คือ ยางรถยนต์ เพราะเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยางรถยนต์มีบทบาทสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและสมรรถนะโดยรวมของรถ นอกจากการเปลี่ยนยางรถยนต์ตามอายุการใช้งานแล้ว อย่าลืมที่จะเช็กยางและเติมลมยางรถยนต์ให้เหมาะสมตามประเภทของรถและน้ำหนักที่บรรทุกตลอดการเดินทางด้วย
รถยนต์แต่ละประเภทต้องเติมลมยางเท่าไหร่
- รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25 - 30 PSI
- รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30 - 35 PSI
- รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมลมยางประมาณ 35 - 40 PSI
- รถตู้ (บรรทุก 7 - 10 คน) ควรเติมลมยางประมาณ 43 - 55 PSI
2.น้ำมันเบรกและระบบเบรก
น้ำมันเบรกมีผลต่อประสิทธิภาพในการเบรกรถ โดยที่ปกติแล้วน้ำมันเบรกจะอยู่ระหว่างขีด Min กับ Max ซึ่งโดยปกติแล้วต้องไม่เกิน Max และไม่ต่ำกว่า Min อีกทั้งควรตรวจเช็กผ้าเบรกก่อนขับรถทางไกลเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ วิธีเช็กให้ทำการเหยียบเบรกและฟังดูว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ หากมีแสดงว่าผ้าเบรกสึกหรือเริ่มเสื่อมสภาพแล้วควรรีบให้ช่างทำการเปลี่ยนก่อนเดินทาง
3.แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้ารถยนต์ ซึ่งจะให้พลังงานเพื่อการสตาร์ทรถและสั่งงานส่วนประกอบต่างๆ เช่น ไฟหน้า เครื่องเสียง และระบบปรับอากาศ หากแบตเตอรี่หมดอาจทำให้รถดับกลางทางหรือไม่สามารถสตาร์ทรถได้ ดังนั้นควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีอายุเกินสามปี หรือเมื่อเริ่มรู้สึกว่าสตาร์ทรถยาก และหากมีร่องรอยการสึกหรอ ก็ควรจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อนที่จะขับรถทางไกล
4.น้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ และจำเป็นต้องตรวจสอบเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะหากว่าระดับน้ำมันในเครื่องต่ำอาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนจัดและไม่สามารถทำงานได้ปกตินั้นเอง
5.น้ำมันเกียร์
ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการทำงานของระบบเกียร์มีหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทานและการสึกหรอของเกียร์และลูกปืน อีกทั้งยังช่วยกระจายหรือถ่ายเทความร้อนอีกด้วย ระดับน้ำมันเกียร์ต่ำหรือน้ำมันเกียร์คุณภาพต่ำอาจทำให้เกียร์ลื่นหรือร้อนเกินไป ทำให้สูญเสียความควบคุมรถได้นะครับ
6.แอร์รถยนต์
การเช็กแอร์และน้ำยาแอร์ โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถออกเดินทางไปไกล แอร์ก็จะช่วยควบคุมอนุหภูมิภายในรถและทำให้คนขับหรือผู้โดยสารรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง เพราะการขับรถเป็นเวลานานในสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้อาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าได้
7.ไฟรถยนต์
ไฟรถยนต์มีส่วนสำคัญทำให้มองเห็นทัศนวิสัยของผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก และทำให้รถคันอื่นบนท้องถนนมองเห็นรถของคุณได้อย่างชัดเจน การขับรถทางไกลอาจต้องขับทั้งในช่วงเวลาที่มืด หรือในช่วงสภาพอากาศที่ยากต่อการมองเห็น ดังนั้นจำเป็นจะต้องเช็กไฟรถยนต์ทั้งไฟหน้า และไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉินต่างๆ ต้องทำงานได้ตามปกติทุกดวง
และทั้งหมดนี้ก็คือวิธีเตรียมรถยนต์ให้พร้อมก่อนขับรถในระยะทางที่ไกลเพื่อให้เดินทางถึงที่หมายได้ปลอดภัย ซึ่งนอกจากการเตรียมรถให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอก็ต้องใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของสมรรถนะของตัวผู้ขับขี่อีกด้วย
รวมถึงก่อนออกเดินทางแล้วอย่าลืมนะครับ! การมีประกันภัยรถยนต์ติดรถเอาไว้จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด