ปีนี้เทศกาล “กินเจ 2565” มีขึ้นระหว่างวันที่ 26 ก.ย. - 4 ต.ค. นี้ สำหรับใครที่อยากเข้าร่วม “ถือศีลกินผัก” อย่างเคร่งครัดจะต้องถือศีลให้เเหมาะสม รวมถึง 5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับเทศกาลกินเจ
โดยก่อนหน้านั้น 1 - 2 วัน หลายท่านเริ่มจะปรับสมดุลร่างกายด้วยการเปลี่ยนจากการกินอาหารปกติมากิน หรือ “อาหารเจ” เพื่อเป็นการล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลกินเจ เต็มรูปแบบ แต่สำหรับใครที่อยากร่วมประเพณี “ถือศีลกินผัก” อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้บุญและได้สุขภาพไปพร้อมกันก็ต้องมาเรียนรู้ข้อปฏิบัติ การถือศีล และข้อห้ามต่างๆ ในระหว่างกินเจทั้ง 9 วัน แต่! จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
5 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับเทสกาลกินเจ
ไม่ฆ่าสัตว์
แน่นอนว่าคนที่จะ “กินเจ” ต้องรู้อยู่แล้วว่าอาหารเจ คือ อาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากสัตว์ไม่ว่าจะเป็น นมวัว, นมแพะ, น้ำมันหมู, ไข่ไก่, ไข่เป็ด, เนย, ชีส, ฯลฯ ต้องงดอาหารที่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย เนื่องจากเป็นการเบียดเบียนสัตว์นั่นเอง
ไม่กินอาหารที่มีกลิ่นฉุน
ต้องงดบริโภคผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด เนื่องจากตามความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ซัวเถา (ต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผักในไทย) เชื่อว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดจะไปทำลายธาตุทั้งห้าในร่างกายได้แก่
ทำลายธาตุไฟทำให้หัวใจทำงานไม่ปกติ | |
รวมไปถึงหอมแดง กับ ต้นหอมด้วย จะไปทำลายธาตุน้ำ ทำให้ไตทำงานไม่ปกติ | |
ทำลายธาตุไม้ทำให้ตับทำงานไม่ปกติ | |
ทำลายธาตุดิน ทำให้ม้ามทำงานไม่ปกติ | |
ทำลายธาตุโลหะ ทำให้ปอดทำงานไม่ปกติ |
ทางการแพทย์พบว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป แต่ในช่วงกินเจที่ต้องงดเนื้อสัตว์ หากกินผักเหล่านี้มากเกินไป ก็อาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร และส่งผลต่อฮอร์โมนร่างกายอีกด้วย
งดอาหารรสจัด
เนื่องจากวัฒนธรรมการกินของชาวจีน มักจะกินอาหารที่มีรสไม่จัด เพราะชาวจีนถือว่าอาหารรสจัดไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด เนื่องจากส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหารและการทำงานของไต
ส่วนในเรื่องความเชื่อทางศาสนา คนที่กินเจเชื่อกันว่าอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งไม่เหมาะสมที่บริโภคช่วงกินเจ ทำให้ศีลไม่บริสุทธิ์ ช่วงกินเจจึงเน้นกินอาหารรสอ่อนๆ สดใหม่จากธรรมชาติ และไม่ผ่านการปรุงแต่งมากนัก
ห้ามใช้ภาชนะร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ
สำหรับคนที่อยาก "ถือศีลกินเจ" อยากให้บริสุทธิ์จริงๆ ต้องปฏิบัติตามข้อนี้ให้ได้ นั่นคือ ต้องรับประทาน “อาหารเจ” ที่ปรุงจากคนที่ถือศีลกินผักเหมือนกัน หรือไปรับอาหารเจมาจากศาลเจ้าเท่านั้น
หากไปรับอาหารที่ร้านอาหารต้องเลือกร้านที่แยกภาชนะโดยเฉพาะไม่ปะปนกับอาหารปกติ แต่ในปัจจุบันอาจทำให้ยุ่งยากในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยเคร่งเรื่องนี้มากนักขอให้เป็นอาหารเจที่ปรุงถูกหลัก ปรุงสะอาด สดใหม่ และปลอดภัยก็เพียงพอ
งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
นอกจากการงดบริโภคเนื้อสัตว์ที่เป็นของคาวในช่วง “กินเจ” แล้ว ตลอดช่วงเวลา 9 วัน “ผู้ที่ถือศีลกินเจ” ต้องงดสิ่งมึนเมาต่างๆ ด้วย เช่น งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งเหล้า เบียร์ ไวน์ งดสูบหรือบริดภคอาหารที่มีส่วนประกอบของใบยาสูบ ใบกัญชง เป็นต้น
พูดจาไพเราะ ไม่เบียดเบียนคนอื่นทั้งกาย วาจา ใจ
ต้องประพฤติชอบทั้งกาย วาจา และใจ แสดงออกทางความคิด การพูด และทำในสิ่งที่ดี เช่น ช่วยเหลือผู้อื่น บริจาคทาน เข้าโรงเจไหว้เจ้า เป็นต้น และห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิตแม้จะเป็นสัตว์เล็กๆ เช่น ยุง มด แมลง ฯลฯ
สำหรับท่านใดที่ตั้งใจ “กินเจ” แล้วก็ควรจะปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ที่เชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดเป็นบุญกุศลยิ่งใหญ่ หวังว่าทุกท่านจะได้อิ่มบุญ อิ่มใจ กับ “เทศกาลกินเจ” ในครั้งนี้นะครับ