เคลมประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือเคลมแห้ง และ เคลมสด บางคนที่ไม่เคยทำประกันภัยรถยนต์ หรือไม่เคยเคลมรถเลยสักครั้ง อาจจะเกิดความสงสัยว่า เคลมแห้ง และเคลมสดคืออะไร แล้วมีความแตกต่างกันอย่างไร ขั้นตอนการเคลมเหมือนหรือแตกต่างกัน ยิ้มได้ประกันภัยจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
เคลมแห้ง
เคลมแห้ง คือการเคลมประกันรถยนต์แบบที่ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่เคลมประกันมายังที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่การเคลมแห้งจะเป็นกรณีที่ไม่มีคู่กรณีมากกว่า เช่น มีรอยบุบจากการชนเสา หรือชนประตูนั้นเอง แต่โดยส่วนมากการเคลมแห้งจะเป็นความเสียหายแบบเล็กน้อย เจ้าของรถยนต์บางคนก็จะรอให้รถมีรอยเยอะกว่านี้พอช่วงประกันใกล้หมดคอยแจ้งเคลมรอบคันทีเดียวในการเคลมแห้ง เจ้าของรถยนต์อาจจะต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก Excess ด้วย ถึงต่อให้เจ้าของรถยนต์ทำประกันชั้น 1 ก็อาจจะต้องเสียเงินในส่วนนี้
วิธีแจ้งเคลมแห้ง ดังนี้
- ถ่ายรูปหลักฐาน ณ ที่เกิดเหตุ ความเสียหาย รวมถึงบันทึกเวลาและสถานที่ไว้ให้ชัดเจน
- ติดต่อไปยังศูนย์ประกันแล้วแจ้งความเสียหาย จากนั้นจะมีการนัดตรวจสอบสภาพรถว่าเสียหายจริงตามที่แจ้งมาหรือไม่
- เมื่อทำการตรวจสอบต่างๆ เรียบร้อยแล้ว บริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ โดยสามารถนำไปส่งเคลมกับอู่ในเครือของบริษัทประกันได้ทันที
**แบบเคลมแห้งอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนแรกก่อน ประมาณ 1,000 - 4,000 บาท ตามแต่ตกลงกับบริษัทประกัน
เอกสารขั้นตอนการเคลมแห้ง
ผู้ทำประกันสามารถทำเรื่องด้วยตัวเอง ให้เข้าไปที่ศูนย์หรืออู่บริการในเครือที่เราเลือกทำประกัน โดยมีเอกสาร ดังนี้
- สำเนาใบขับขี่
- สำเนาทะเบียนรถ
- กรมธรรม์รถยนต์
- ภาพถ่ายความเสียหาย ภาพถ่ายป้ายทะเบียน (สำหรับคนที่ต้องการทำเรื่อง เคลมแห้ง ผ่านทางออนไลน์)
กรณีใดบ้างที่ประกันจะไม่คุ้มครอง
- ใช้รถยนต์ในทางผิดกฎหมาย เช่น ขนส่งยาเสพติด หรือปล้นทรัพย์สิน
- ใช้แต่งเพื่อนำไปแข่งขัน ซึ่งเป็นการใช้รถยนต์ผิดประเภทแถมยังสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
- อุบัติเหตุที่ผู้ขับขี่มีแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดเกินกว่า 150 มิลลิกรัม หรือคือ เมาแล้วขับนั้นเอง
- นำรถไปใช้งานแบบลากจูง ถือว่าเป็นการใช้รถยนต์ผิดประเภทอาจทำให้รถยนต์เสียหายโดยไม่ได้เกิดจากการใช้รถแบบปกติ
- นำรถไปใช้นอกอาณาเขตคุ้มครอง คือ การขับขี่รถออกไปนอกประเทศ แต่หากจำเป็นต้องเอาไปสามารถแจ้งกับทางบริษัทประกันได้แล้วแต่กรณี
- อุบัติเหตุจากสงคราม การปฏิวัติต่อต้าน อาวุธปรมาณู และความเสียหายจากกัมมันตภาพรังสี ก็ขอแนะนำว่าถ้ามีการเกิดสงครามขึ้นมา เราอย่าขับรถไปเสี่ยงให้เกิดอัตรายเลยครับ
เคลมสด
เคลมสด คือ การแจ้งเคลมประกันรถยนต์ในที่เกิดเหตุ บริษัทประกันก็จะส่งเจ้าหน้าที่เคลมมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่ารถคู่กรณีหรือรถของเราเสียหายมากน้อยเพียงใด มีผู้บาดเจ็บหรือไม่ และเช็คดูว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูกหรือผิด จากนั้นเจ้าของรถก็จะได้รับใบรายการที่แสดงความเสียหายต่างๆ เพื่อเอาไว้ใช้ยื่นเคลมประกันกับทางศูนย์ โดยเคลมสดสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
1.เคลมสดแบบมีคู่กรณี คือ กรณีที่รถชนด้วยกันเอง โดยที่พนักงานจากบริษัทประกันจะเป็นผู้พิจารณาเองว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด โดยฝ่ายผิดจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกให้กับคู่กรณีก่อนตามที่ได้ตกลงไว้กับทางบริษัทประกัน
2.เคลมสดแบบไม่มีคู่กรณี คือ กรณีที่รถของผู้เอาประกันชนกับสิ่งของหรือวัตถุจนเกิดความเสียหายมาก เช่น ชนต้นไม้หรือเสาไฟฟ้า โดยกรณีนี้ผู้ถือประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกก่อนเสมอ
วิธีแจ้งเคลมสด ดังนี้
- เตรียมกรมธรรม์เอาไว้ให้พร้อมและโทรแจ้งไปที่ศูนย์ประกันที่ได้ทำประกันเอาไว้ โดยแจ้งหมายเลขกรมธรรม์ ชื่อ ทะเบียนและยี่ห้อรถ ตำแหน่งที่เกิดเหตุและรายละเอียดเหตุการณ์ โดยจะมีตัวแทนจากบริษัทประกันออกมาเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์
- เตรียมเอกสารสำหรับยื่นเรื่อง คือ บัตรประชาชน ใบขับขี่ กรมธรรม์ และเล่มทะเบียนรถ
- เมื่อประกันมาถึงจะประเมินสถานการณ์และตรวจสอบว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายผิด โดยที่ฝ่ายผิดอาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเพื่อเยียวยาคู่กรณี
- หลังจากตรวจสอบเหตุการณ์และประเมินค่าเสียหายเรียบร้อยแล้วทางบริษัทประกันจะออกใบประเมินความเสียหายให้ผู้เอาประกันไปเคลมกับศูนย์หรืออู่เอง
เอกสารขั้นตอนการเคลมสด
หลังเกิดอุบัติเหตุให้เจ้าของรถถ่ายภาพความเสียหายเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจดทะเบียนของคู่กรณีเอาไว้ และโทรแจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุจะตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้วออกใบรายการความเสียหายเพื่อให้เรานำไปยื่นเคลมประกัน โดยมีเอกสาร ดังนี้
- สำเนาใบขับขี่
- สำเนาทะเบียนรถ
- กรมธรรม์รถยนต์
เป็นไงกันบ้างคะ นี่ก็เป็นความแตกต่างระหว่างเคลมแห้ง และ เคลมสด ส่วนระยะเวลาการเคลมสด เคลมแห้ง ใช้เวลานานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความเสียหายของตัวรถและคิวของช่างซ่อมรถนะคะ เพราะฉะนั้นขับขี่ปลอดภัย มีวินัยในการขับรถนะคะ
สำหรับท่านใดที่กำลังมองหา ประกันภัยรถยนต์ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย ที่เดียวจบครบทุกเรื่อง ของ Yimdai Insurance
เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อให้คุณได้ประกันภัยที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับความคุ้มครองดีที่สุด