ใครมีอาการวิงเวียน เหมือนยังเวียนหัวจาก “แผ่นดินไหว” อยู่บ้าง?
ถึงแม้ว่าแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 จะผ่านไปแล้ว และมีอาฟเตอร์ช็อกไปเรียบร้อยหลายครั้งแล้ว แต่ผู้คนจำนวนมากก็ยังคงมีอาการเวียนหัวไม่หายจากความตกใจและตื่นกลัว หรือบางคนยังมีอาการโคลงเคลงอยู่ ซึ่งอาจเข้าข่ายอาการที่เรียกว่า ภาวะป่วยจากแผ่นดินไหว
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2568 นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อาการเวียนหัวขณะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว หรือแม้กระทั่งแผ่นดินไหวหยุดไปแล้ว เกิดจากความผิดปกติของสมองส่วนกลาง หรือเป็นโรคสมองเมาแผ่นดินไหว คือ กลุ่มอาการวิงเวียนหลังแผ่นดินไหว จึงทำให้รู้สึกเหมือนยังคงเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าร่างกายยังต้องการการปรับตัว
ทำความรู้จัก “โรคสมองเมาแผ่นดินไหว” คืออะไร เกิดจากสาเหตุใด?
โรคสมองเมาแผ่นดินไหว คือ กลุ่มอาการวิงเวียนหลังแผ่นดินไหว ที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังโคลงเคลงหรือเคลื่อนไหวอยู่ มีสาเหตุเกิดจากการรบกวนในระบบการทรงตัวซึ่งเป็นส่วนของหูชั้นในที่ควบคุมความสมดุล

เพิ่มเติม การเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดจากแผ่นดินไหวสามารถทำให้ระบบนี้เสียสมดุลได้ จึงส่งผลให้สมองพยายามปรับความรู้สึกให้กลับมาปกติอย่างยากลำบากบางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ เวียนศรีษะ หรือรู้สึกไม่สบายตัวร่วมด้วย และอาการนี้อาจรุนแรงขึ้นในคนที่ไวต่อการเมารถอยู่แล้ว
สัญญาณอันตรายที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ทีดังนี้
- เวียนศีรษะรุนแรง หรือรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
- คลื่นไส้ อาเจียนซ้ำๆ หรือรับประทานอาหารไม่ได้
- เดินไม่ตรง ทรงตัวลำบาก หรือมีปัญหาในการเคลื่อนไหว
- ตามั่ว เห็นภาพซ้อน หรือการมองเห็นผิดปกติ
- หูอื้อ หรือมีเสียงดังในหูตลอดเวลา
- อ่อนแรงที่แขน ขา หรือมีอาการชาที่ใบหน้า ริมฝีปาก หรือแขนขา
- อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 - 3 วัน หรือลุกลามไปจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรพบแพทย์ทันที
สรุปเปิดสาเหตุสำคัญ! "แผ่นดินไหว" เกิดที่ประเทศไทยได้อย่างไร? อ่านเพิ่มเติมคลิก!
วิธีแก้อาการมึนหัวจากแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สามารถทำให้เกิดความเสียหายได้มากมาย ทั้งทางด้านโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างและร่างกายของมนุษย์ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว คนบางกลุ่มอาจรู้สึกถึงอาการมึนหัวหรือเวียนหัว ซึ่งอาจเกิดจากความตกใจหรือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ในบทความนี้เราจะมาดูวิธีการแก้อาการมึนหัวที่เกิดจากแผ่นดินไหว และวิธีป้องกันในกรณีที่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในอนาคต
1. หายใจลึกๆ และช้า
อาการมึนหัวบางครั้งเกิดจากความเครียดหรือการตกใจในขณะเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งอาจทำให้ระบบทางเดินหายใจผิดปกติได้ วิธีที่ง่ายและช่วยได้ทันทีคือการหายใจลึกๆ ช้าๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ และช่วยให้สมองได้รับการพักผ่อน ทำให้ความเครียดลดลงและอาการมึนหัวทุเลาลงได้
2. นั่งหรือนอนในท่าที่เหมาะสม
เมื่อเกิดอาการมึนหัวจากแผ่นดินไหว ให้พยายามหาที่นั่งหรือนอนในท่าที่สะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงการล้ม หรือบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ การนั่งหรือนอนจะช่วยให้ระบบการทรงตัวของร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การขาดน้ำสามารถทำให้ร่างกายเกิดอาการมึนหัวได้ การดื่มน้ำให้เพียงพอในช่วงหลังแผ่นดินไหวจะช่วยลดอาการมึนหัวและเวียนหัวได้ น้ำช่วยในการฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลต่างๆ ภายในร่างกายให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ
4. รับประทานอาหารเบาๆ
บางครั้งอาการมึนหัวอาจเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่ต่ำหลังจากเหตุการณ์เครียด การรับประทานอาหารเบาๆ เช่น ขนมปัง ผลไม้ หรือของว่างที่มีน้ำตาลปานกลางจะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดและบรรเทาอาการมึนหัวได้
5. หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์
หากอาการมึนหัวไม่หายไปภายในระยะเวลาสั้นๆ หรือมีอาการรุนแรง เช่น เวียนหัวมากจนถึงกับล้มลงหรือมีการคลื่นไส้อาเจียน ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว เช่น การบาดเจ็บที่ศีรษะจากการล้ม หรืออาการเกี่ยวกับระบบสมดุลของร่างกาย
6. การใช้วิธีบรรเทาอื่นๆ เช่น การนวดหรือการประคบเย็น
การนวดเบาๆ บริเวณศีรษะหรือการใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณหน้าผากสามารถช่วยลดอาการมึนหัวจากแผ่นดินไหวได้ นอกจากนี้การนวดบริเวณคอและไหล่ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อาจตึงจากความเครียด
7. การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
หลังจากแผ่นดินไหว ควรตรวจสอบสถานที่ที่อยู่ให้ปลอดภัยจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น เศษกระจก หรือสิ่งของที่อาจล้มลง เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจและสามารถพักผ่อนได้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
ข้อสรุป
อาการมึนหัวจากแผ่นดินไหวมักเกิดจากความเครียดและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวในช่วงเวลาสั้นๆ การดูแลตนเองด้วยวิธีที่กล่าวถึงจะช่วยบรรเทาอาการและให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หากมีอาการที่รุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาต่อไป
