การขับขี่บนท้องถนนอาจต้องเผชิญกับอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็น รถเสียระหว่างทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดหรือกังวลได้ว่าจะรับมือยังไง ซึ่งการเตรียมตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณรับมือได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
รถเสียระหว่างทาง…
เป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เสมอไป แต่หากว่าเจ้าของรถรู้จักอาการของปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถจะช่วยให้เราสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นี่คืออาการรถเสียที่พบได้บ่อย
อาการรถเสียระหว่างทางที่พบบ่อยและวิธีการรับมือ
1.เครื่องยนต์ดับหรือสตาร์ทไม่ติด
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- แบตเตอรี่หมด
- ระบบจ่ายน้ำมันมีปัญหา
- สตาร์ทเตอร์เสีย
- ปัญหาที่ระบบไฟฟ้า
วิธีรับมือ:
- หากเครื่องยนต์ดับขณะขับขี่ ควรพยายามขับรถไปที่จุดที่ปลอดภัย ก่อนจะตรวจสอบแบตเตอรี่หรือลองพ่วงแบตเตอรี่กับรถคันอื่น
- หากสตาร์ทไม่ติด ลองเปิดไฟหน้ารถและดูว่าไฟหน้ารถสว่างไหม ถ้าไฟไม่สว่าง อาจจะเป็นเพราะแบตเตอรี่หมด หากเป็นไปได้ ให้พ่วงแบตเตอรี่กับรถคันอื่น
2. น้ำหล่อเย็นร้อนเกินไป
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- น้ำหล่อเย็นรั่วหรือขาด
- ปั๊มน้ำหล่อเย็นเสีย
- ปัญหาที่เทอร์โมสตัต
วิธีรับมือ:
- หากเครื่องยนต์ร้อนเกินไป ให้จอดรถในที่ปลอดภัยและปิดเครื่องยนต์ทันที เพื่อลดความร้อน
- รอให้เครื่องเย็นลงก่อนจึงเปิดฝากระโปรง และตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น
- หากน้ำหล่อเย็นขาดหรือรั่ว ควรเรียกรถลากไปอู่ซ่อมทันที
น้ำหยดใต้ท้องรถ มีสีที่ต่างกัน สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง? อ่านเพิ่มเติม คลิก!
3. ยางรั่วหรือยางระเบิด
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- ยางเสื่อมสภาพหรือถูกกรีดจากของมีคม
- ขับเร็วเกินไปหรือขับผ่านพื้นผิวถนนที่ไม่ดี

วิธีรับมือ:
- หากยางรั่วและคุณสามารถเปลี่ยนยางได้ ให้ใช้แม่แรงและเครื่องมือที่เตรียมมาเพื่อเปลี่ยนยางสำรอง
- หากยางระเบิดหรือไม่สามารถเปลี่ยนยางได้เอง ให้จอดรถในที่ปลอดภัยและโทรขอความช่วยเหลือจากบริการลากรถหรือช่างซ่อม
4. ระบบเบรกไม่ทำงาน (เบรกแข็งหรือเบรกอ่อน)
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- น้ำมันเบรกรั่ว
- ปัญหาที่ผ้าเบรกหรือดิสก์เบรก
- ระบบเบรกมีอาการเสียหาย
วิธีรับมือ:
- หากคุณสังเกตว่าเบรกไม่ทำงานตามปกติ ให้ขับรถไปที่จุดปลอดภัยทันที
- ใช้เบรกมือหรือปั๊มเบรกซ้ำๆ ในกรณีที่เบรกอ่อน แต่หากเป็นปัญหาร้ายแรง ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและโทรขอความช่วยเหลือ
5. ไฟหน้าหรือไฟสัญญาณไม่ทำงาน
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- ฟิวส์ขาด
- หลอดไฟเสื่อมสภาพ
- ปัญหาที่ระบบไฟฟ้า
วิธีรับมือ:
- หากไฟหน้าหรือไฟสัญญาณไม่ทำงาน ควรตรวจสอบฟิวส์หรือลองเปลี่ยนหลอดไฟ
- หากไม่สามารถแก้ไขได้ ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวังในที่ที่มีแสงสว่าง และโทรหาช่างซ่อม
ขัดไฟหน้าให้ใสวิบวับเหมือนใหม่ ทำได้เองไม่ยาก! อ่านเพิ่มเติม คลิก!
6. การสั่นสะเทือนหรือเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- ปัญหาที่เครื่องยนต์
- ระบบช่วงล่างมีปัญหา
- ระบบพวงมาลัยเสียหาย
วิธีรับมือ:
- หากคุณรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนหรือได้ยินเสียงผิดปกติจากเครื่องยนต์หรือช่วงล่าง ควรจอดรถที่จุดปลอดภัยทันที
- ตรวจสอบอาการที่สามารถตรวจพบได้เบื้องต้น เช่น ระดับน้ำมันเครื่องหรือระดับน้ำหล่อเย็น และหากจำเป็นให้โทรหาบริการช่วยเหลือ
7. ระบบไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์มีปัญหา
สาเหตุที่อาจเกิดขึ้น:
- ฟิวส์ขาด
- สายไฟหลวม
- ปัญหาที่เซ็นเซอร์หรือคอมพิวเตอร์ในรถ
วิธีรับมือ:
- หากมีปัญหาที่ระบบไฟฟ้าหรือการส่งสัญญาณจากเครื่องยนต์ ให้หยุดรถที่จุดปลอดภัยและตรวจสอบไฟเตือนที่แผงหน้าปัด
- หากไฟเตือนแสดงถึงปัญหาที่สำคัญ เช่น ระบบเครื่องยนต์ ควรหาบริการช่วยเหลือหรือลากรถไปที่อู่
การรับมือกับรถเสียระหว่างทาง: วิธีการและคำแนะนำเพื่อความปลอดภัย
1. หาที่จอดให้ปลอดภัย เมื่อรถเสียกลางถนน ควรหาที่จอดในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น ข้างทางในที่ที่เห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล หรือจอดในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ หากเป็นไปได้ พยายามหลีกเลี่ยงการจอดในที่ที่อาจเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านมา เช่น บนทางโค้งหรือบริเวณที่มองไม่เห็น
2. เปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟกระพริบ) การเปิดไฟฉุกเฉิน (ไฟกระพริบ) จะช่วยให้รถคันอื่นรู้ว่ามีอุปสรรคหรือเหตุฉุกเฉินบนถนน ให้ระมัดระวังเมื่อขับขี่ผ่านไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากการที่คนอื่นไม่รู้ว่ารถคุณกำลังมีปัญหา
3. ตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้น หากเป็นไปได้ คุณสามารถเปิดฝากระโปรงหรือดูที่เครื่องยนต์เพื่อตรวจสอบสาเหตุเบื้องต้นว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ เช่น การสูญเสียแรงดันน้ำหล่อเย็น หรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา อย่างไรก็ตาม หากไม่มั่นใจหรือไม่รู้วิธีการตรวจสอบ ควรหลีกเลี่ยงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยตนเอง และโทรขอความช่วยเหลือจากช่างหรือบริการช่วยเหลือรถเสีย
4. โทรขอความช่วยเหลือ หากคุณไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ให้โทรขอความช่วยเหลือจากบริการช่วยเหลือฉุกเฉินหรือโทรศัพท์หาบริษัทประกันภัยของคุณ เพื่อให้มีทีมงานมาช่วยซ่อมแซมหรือลากรถไปยังสถานที่ที่ปลอดภัย
5. ระมัดระวังผู้ขับขี่อื่น ถ้าคุณต้องออกจากรถ ให้ระมัดระวังการขับขี่ของรถคันอื่นที่อาจไม่เห็นคุณ เนื่องจากสถานที่บางแห่งอาจมืดหรือมีการจราจรที่หนาแน่น ควรสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงหรือใช้เครื่องหมายช่วยในการทำให้คุณมองเห็นได้ชัดเจน
6. เตรียมอุปกรณ์เสริม เพื่อให้การเดินทางมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ควรเตรียมอุปกรณ์เสริมที่สามารถช่วยในกรณีรถเสียได้ เช่น ไฟฉาย, สายพ่วงไฟ, ถังน้ำมันสำรอง, หรือชุดเครื่องมือซ่อมเบื้องต้น เป็นต้น
7. ป้องกันและเตรียมความพร้อม วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับรถเสียระหว่างทางคือการป้องกันตั้งแต่แรก โดยการตรวจเช็คสภาพรถให้ดีทุกครั้งก่อนเดินทาง เช่น ตรวจสอบระดับน้ำมัน, น้ำหล่อเย็น, ยางรถยนต์, และสัญญาณไฟต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
8. รู้จักใช้บริการลากรถหรือช่างซ่อมที่มีคุณภาพ หากรถเสียเป็นระยะเวลานานหรือปัญหาซับซ้อน ควรติดต่อบริการลากรถหรือช่างซ่อมที่มีประสบการณ์และเชื่อถือได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือเสียเวลาในการรอคอย
สรุป
การรับมือกับรถเสียระหว่างทางไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไปหากคุณมีการเตรียมตัวและปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างระมัดระวัง การคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุกสถานการณ์ หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณก็จะสามารถผ่านเหตุการณ์รถเสียกลางทางไปได้อย่างปลอดภัยและสบายใจมากขึ้น

เทคนิคลดจุดบอด! ปรับกระจกรถยนต์เพื่อความปลอดภัย อ่านเพิ่มเติม คลิก!