ขับรถดีแค่ไหน…ถ้าคนอื่นพุ่งมาชน เราต้องรับผิดชอบไหม?
"ขับรถดี มีวินัย จอดถูกกฎทุกอย่าง แต่จู่ ๆ มีคนขับรถมาชนท้ายเราตูมเข้าให้"
หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยสงสัยว่า
“เราขับดีแล้ว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุเพราะคนอื่น ใครต้องรับผิดชอบ?”
คำตอบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องสามัญสำนึก แต่เป็นเรื่อง กฎหมาย + ประกันภัยรถยนต์ ที่คุณควรรู้!
✅ 1. ขับดี ไม่ได้แปลว่า ไม่ต้องรับผิดชอบ เสมอไป
ในทางกฎหมายจราจร และการเคลมประกัน"การเป็นฝ่ายผิด-ฝ่ายถูก" จะถูกพิจารณาจาก พฤติกรรมของแต่ละฝ่ายในขณะเกิดเหตุไม่ใช่แค่เราคิดว่าเราขับดี หรือเราหยุดอยู่เฉย ๆ
ตัวอย่าง:
เราหยุดรถติดไฟแดงอยู่ดี ๆ แล้วโดนชนท้าย = ชัดเจนว่าเราไม่ผิด
แต่ถ้าเราหยุดกลางทางแบบกระทันหัน ไม่มีไฟเตือน = อาจเข้าข่ายประมาทร่วม
หรือเราขับอยู่ในเลนตัวเอง แต่มีคนเปลี่ยนเลนแล้วเฉี่ยวเรา = ต้องดูว่าเราขับด้วยความเร็วเหมาะสมไหม?
ทุกกรณีต้องใช้หลักฐาน เช่น กล้องหน้ารถ ภาพถ่าย หรือพยาน เพื่อชี้ชัดว่าใครผิด ใครถูก
✅ 2. ถ้าอีกฝ่าย "พุ่งมาชน" เราคือผู้เสียหายหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว หากมีรถอีกคันพุ่งมาชนรถเราขณะเราขับหรือจอดอย่างถูกต้อง เราจะถือเป็นฝ่ายถูก และเป็น ผู้เสียหาย ที่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยจากอีกฝ่ายได้
แต่… มีข้อแม้สำคัญ เช่น:
- รถเราจอดในที่ห้ามจอด (เช่น จอดบนสะพาน หรือกลางแยก) → เราอาจถูกพิจารณาว่าประมาทร่วม
- เราเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว → อาจมีส่วนผิด
- เราขับสวนเลน (แม้จะไม่เจตนา) → กลายเป็นผู้กระทำผิดทันที
???? ขับดี = ต้องถูกต้องทั้งตามกฎหมาย และปลอดภัยตามสถานการณ์
อย่าคิดว่าแค่ “ขับไม่เร็ว” หรือ “จอดอยู่เฉย ๆ” แล้วจะปลอดภัยจากความรับผิดชอบเสมอไป
✅ 3. ประกันภัยรถยนต์คือ “เกราะป้องกันความรับผิด”
แม้คุณจะเป็นฝ่ายถูก 100% ก็ยังมีภาระอื่น ๆ ที่อาจตามมา เช่น:
- ต้องเสียเวลารอประกันเคลม
- อาจต้องสำรองจ่ายค่าซ่อมก่อน ถ้าอีกฝ่ายไม่มีประกัน
- รถเข้าอู่ซ่อมนาน เสียเวลาในการเดินทาง
- อาจถูกเจรจาลดความรับผิดหากอีกฝ่ายไม่มีเงินจ่าย
ทางออกที่ดีที่สุดคือ “ทำประกันภัยรถยนต์” ที่ครอบคลุม
ประกันชั้น 1 | ประกันชั้น 2+ / 3+ | หากรถเราไม่มีประกันเลย (ไม่มีแม้แต่ พ.ร.บ.) |
|
|
|
✅ 4. แล้วจะเรียกร้องอะไรได้บ้าง ถ้าเราเป็นฝ่ายถูก?
เมื่อเกิดเหตุการณ์ “คนอื่นมาชน” เรา และพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ผิด
สิ่งที่เราสามารถเรียกร้องได้มีดังนี้:
- ค่าซ่อมรถ ของเรา (ตามราคาประเมิน)
- ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เช่น ต้องเช่ารถระหว่างซ่อม
- ค่ารักษาพยาบาล / ค่าทำขวัญ (ถ้ามีผู้บาดเจ็บ)
- ค่าเสียเวลา / เสียรายได้ (แล้วแต่กรณี)
- ค่าเบี้ยประกันเพิ่ม (กรณีต้องสำรองจ่าย)
ถ้าอีกฝ่ายมีประกัน: บริษัทประกันของเขาจะเป็นผู้จ่าย
ถ้าไม่มีประกัน: ต้องเรียกร้องโดยตรง หรือฟ้องศาลเพื่อเอาเงิน
✅ 5. ทำยังไงดี เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับผิด?
นี่เป็นสถานการณ์ที่หลายคนกลัวมาก เพราะแม้ว่าเราจะรู้ว่าอีกฝ่ายผิด
แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับ หรือพยายาม “ตีเนียน” เรื่องจะยุ่งทันที
ทางแก้:
- อย่าทะเลาะ ใช้หลักฐานเป็นเครื่องพิสูจน์
- ถ่ายภาพ-วิดีโอหน้างานให้มากที่สุด
- โทรเรียกตำรวจจราจร มาชี้ขาด
- แจ้งประกันภัยให้มาตรวจสอบร่วมกับตำรวจ
- หากอีกฝ่ายไม่มีประกัน → บันทึกลงบันทึกประจำวันไว้
สิ่งสำคัญ: อย่าทำเรื่องเงียบ หรือตกลงกันแบบลับ ๆ เพราะจะเสียเปรียบทางกฎหมายในภายหลัง
สรุป: ขับดีแค่ไหน ก็ต้องมีเกราะป้องกันตัว
- บนท้องถนน คุณไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของคนอื่นได้
- แม้คุณจะขับดี มีวินัยทุกอย่าง ก็ยังมีโอกาส “ถูกชน” แบบไม่ตั้งใจ
- การมีประกันภัยรถยนต์ คือวิธีป้องกันความเสียหายทางการเงินและเวลา
- และอย่าลืมว่า “ถูกหรือผิด” จะถูกตัดสินจากพฤติกรรม + หลักฐาน ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ติดกล้องหน้ารถ: ถือเป็นหลักฐานสำคัญมากที่ช่วยตัดสินถูกผิด
- ต่อประกันอย่างสม่ำเสมอ: อย่าปล่อยให้ขาดช่วง
- ศึกษากรมธรรม์ก่อนซื้อ: ว่าคุ้มครองกรณีไหนบ้าง มีข้อยกเว้นอะไร
- แจ้งเคลมทันทีเมื่อเกิดเหตุ: อย่ารอนานเกิน 24 ชั่วโมง (ในบางบริษัท)

สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด