สำหรับผู้ใช้รถหลายๆ ท่าน ที่ชอบแต่งรถไม่ว่าจะแต่งล้อแม็ก เครื่องเสียง หรือชุดแต่งรอบคัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดอุบัติเหตุมีความเสียหายเกิดขึ้น คำถามคือ “ของแต่งเหล่านี้ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะคุ้มครองหรือไม่?” ยิ้มได้ประกันภัย จะพาไปหาคำตอบกันครับ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองของแต่งรถหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้วทางประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองความเสียหายทั้งตัวรถและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุต่างๆ รวมไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับของแต่งรถด้วย แต่ถ้าได้มีการแจ้งเตือนต่อบริษัทประกันภัยรถยนต์ไว้ล่วงหน้า และระบุของแต่งเหล่านั้นได้ในกรมธรรม์ได้อย่างชัดเจน
ของแต่งรถที่ประกันภัยคุ้มครอง
1.ของแต่งรถจากโรงงานหรือศูนย์จำหน่าย
- ล้อแม็กจากศูนย์
- ฟิล์มกรองแสง
- ชุดแต่งรอบคัน (ที่มากับรถ)
- กล้องติดรถยนต์ที่ติดตั้งมาตั้งแต่แรก
ของเหล่านี้มักรวมอยู่ในราคารถยนต์ตั้งแต่แรก และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตัวรถ
2.ของแต่งเพิ่มเติมที่แจ้งกับบริษัทประกัน
- หากคุณติดตั้งของแต่งภายหลัง เช่น:
- ล้อแม็กแต่ง
- ไฟหน้า LED หรือ Projector
- เครื่องเสียงแต่ง
- กันชนเหล็ก, โรลบาร์, ชุดยกสูง (สำหรับรถกระบะ/ออฟโรด)
- กล้องติดรถยนต์แบบถาวร
หากคุณได้ แจ้งรายละเอียดและมูลค่ากับบริษัทประกันภัย ตอนทำหรือต่ออายุกรมธรรม์ บริษัทจะพิจารณาเพิ่มทุนประกัน และของแต่งเหล่านี้จะได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุ
ของแต่งรถที่ประกันภัย “ไม่คุ้มครอง”
แม้ว่าจะติดตั้งจริง แต่ถ้าไม่ตรงตามเงื่อนไข หรือไม่ได้แจ้งไว้ อาจไม่ได้รับความคุ้มครอง เช่น
1.ของแต่งที่ไม่ได้แจ้งไว้ในกรมธรรม์
- ล้อแม็กหรือของแต่งราคาแพงที่ติดตั้งเองแต่ไม่ได้แจ้งประกัน
- อุปกรณ์แต่งเพิ่มเติม เช่น เครื่องเสียง หรือกันชนเหล็ก ที่ไม่อยู่ในรายการทุนประกัน
2.ของใช้ส่วนตัวในรถ
- โทรศัพท์มือถือ
- โน้ตบุ๊ก
- กล้องถ่ายรูป
- กระเป๋าส่วนตัว
แม้จะอยู่ภายในรถในขณะเกิดเหตุ แต่ ถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล ไม่ใช่ของแต่งรถ จึงไม่อยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ทั่วไป
3.ของตกแต่งภายในที่ถอดได้ง่าย
- พรมปูพื้น
- ปลอกเบาะ
- หุ้มพวงมาลัย
- ของประดับตกแต่งภายในรถ
อุปกรณ์เหล่านี้มักถูกมองว่าไม่เกี่ยวข้องกับสมรรถนะหรือความปลอดภัยของรถ จึงไม่อยู่ในการคุ้มครอง
วิธีเพิ่มความคุ้มครองของแต่งรถ
- แจ้งของแต่งรถเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัยฯ พร้อมกับระบุมูลค่าของแต่งที่ติดรถมา
- เก็นหลักฐานการติดตั้ง เช่น ใบเสร็จ รูปถ่าย หรือ ใบเสนอราคา ที่ได้มาจากร้านหรือการติดตั้งรถ
- ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ และสอบถามตัวแทนหากมีข้อสงสัย
- เปรียบเทียบบริษัทประกัน เพราะบางแห่งมีความยืดหยุ่นในการคุ้มครองของแต่งมากกว่าคนอื่น
ระวัง! ไม่ให้การตกแต่งรถยนต์ของคุณผิดกฏหมาย!
การแต่งรถแบบไม่ผิดกฏหมายจะช่วยให้สถานภาพของประกันตามเงื่อนไขกรมธรรม์ไม่ติดขัด เช่น
- รถโหลดเตี้ย พ.ร.บ. กำหนดว่าไม่ควรต่ำกว่า 40 เซนติเมตร วัดจากกึ่งกลางไฟหน้ารถยนต์กับระดับพื้นถนน หรือถ้ายกสูงก็ไม่ควรเกิน 175 เซนติเมตร โดยวัดจากกึ่งกลางไฟหน้ากับระดับพื้นถนนเช่นกัน
- ท่อไอเสียต้องมีความดังไม่เกิน 100 เดซิเบล ส่วนขนาดท่อไม่มีผลทางกฏหมาย
- ไฟเบรกทุกจุดต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยวต้องเป็นสีเหลือง ไฟถอยหลังต้องเป็นแสงสีขาว
- ดัดแปลงป้ายทะเบียนรถยนต์
- ขนาดของล้อรถยนต์ ถึงแม้ว่ากฏหมายจะไม่ได้ระบุเอาไว้ แต่ต้องเป็นขนาดที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
สรุป
การแต่งรถเป็นเรื่องสนุก แต่การทำให้ของแต่งเหล่านั้น ได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย คือสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากคุณใช้ประกันชั้น 1 และมีการแจ้งของแต่งไว้กับบริษัทประกันอย่างถูกต้อง คุณจะมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น คุณจะไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายของของแต่งรถเพียงลำพัง
