หยุด! พฤติกรรมเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น

     การเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อโดยไม่จำเป็น อาจจะสร้างความสับสนให้กับผู้อื่นที่ขับตามหลังเรามาก็ได้ และเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ

หยุด! พฤติกรรมเปิดไฟฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น

ข้ามสี่แยกแล้วต้องการตรงไป

     ผู้ขับขี่หลายคนมักมีความเชื่อว่าการเปิดไฟฉุกเฉินตรงสี่แยกเป็นการเตือนรถยนต์คันอื่นที่กำลังร่วมใช้สี่แยกเดียวกันเพื่อเป็นการเตือนว่าไม่ให้มาชนรถยนต์ของตนเอง แต่! เป็นสิ่งที่ผิด เนื่องจากผู้ขับร่วมทางอาจเห็นแค่ไฟกระพริบมุมหน้ามุมเดียว เสมือนว่ารถยนต์คันที่เปิดไฟฉุกเฉินอาจกำลังเตรียมเลี้ยวไปยังด้านใดด้านหนึ่ง ทำให้คันหลังอาจไม่ทันระวังหรือไม่ได้ชะลอความเร็วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้

     วิธีขับรถข้ามทางแยกที่ถูกต้อง ให้ตั้งสมาธิควบคุมรถยนต์ตามปกติ มองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าอยู่ในระยะที่ปลอดภัยแล้วก็ขับข้ามทางแยกไปได้เลย โดยไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน

จอดรถในพื้นที่หรือเวลาห้ามจอด

     การจอดรถยนต์ในพื้นที่หรือเวลาห้ามจอดแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะไฟฉุกเฉินให้ใช้ในกรณีควรจะใช้กรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น และต้องการให้ผู้อื่นทราบ เช่น รถประสบอุบัติเหตุ หรือเสียจอดกีดขวางอยู่ และกฎหมายกำหนดให้ใช้ “ไฟฉุกเฉิน” เฉพาะกรณีรถที่ “จอดเสีย” อยู่กับที่เท่านั้น!

ฝนตกหนัก หมอกลงจัด ทัศนวิสัยแย่

     การเปิดไฟฉุกเฉินขณะฝนตกทำให้ผู้ขับขี่ตามหลัง รวมถึงผู้ร่วมทางคนอื่นๆ เกิดความสับสนว่ารถที่เปิดไฟฉุกเฉินต้องการเปลี่ยนเลนไปทางซ้าย หรือ ทางขวา หรือว่าต้องการจะจอด เนื่องจากไฟเลี้ยวจะไม่ทำงานขณะเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ นอกจากนี้การขับรถตามหลัง รถที่เปิดไฟฉุกเฉินเป็นระยะเวลานานๆ ยังส่งผลให้ดวงตาของผู้ขับขี่พร่ามัวและหากมีรถหลายคันเปิดไฟฉุกเฉินพร้อมกัน จะยิ่งทำให้กะระยะได้ยากมากขึ้น ในกรณีที่ทัศนวิสัยไม่ดี ควรเปิดไฟหน้า พร้อมไฟตัดหมอก หรือถ้าแย่มากๆ จนแทบมองไม่เห็นทางและสภาพแวดล้อมควรจอดหลบอย่างปลอดภัยและควรเปิดไฟฉุกเฉินไว้ด้วย

เบรกกะทันหัน ต้องจอดเป็นคันท้าย

     การเบรกกะทันหันในลักษณะดังกล่าว ให้เหยียบแป้นเบรกให้ไฟเบรกสว่างค้างเอาไว้ ถ้ามองกระจกหลังแล้วไม่แน่ใจว่าผู้ขับขี่คันหลังจะเบรกทันหรือไม่ ให้ถอนแป้นเบรกแล้วเหยียบซ้ำเพื่อให้ไฟเบรกกระพริบ 1 ครั้ง จะได้เป็นที่สังเกตได้ชัดเจน แล้วค่อยเหยียบแป้นเบรกค้างไว้ หรืออาจเปิดไฟฉุกเฉินในขณะจอดนิ่ง ต่อท้ายอย่างกะทันหันในช่วงสั้นๆ ได้ และเมื่อรถยนต์ที่ตามมาเบรก และจอดอย่างปลอดภัยแล้วหรือก่อนเริ่มออกตัวใหม่ ควรเปิดไฟฉุกเฉินทันที

     การเปิดไฟฉุกเฉินพร่ำเพรื่อ จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำและสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเปิดหรือไม่เปิดไฟฉุกเฉินในสถานการณ์ใดๆ ต้องมีความปลอดภัยอยู่เสมอ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการขนส่งทางบก

ไฟฉุกเฉินควรใช้ตอนไหน?

• รถจอดเสียที่จอดอยู่กับที่ให้เปิดไฟฉุกเฉินไว้
• รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วแล้วเจอสิ่งกีดขวาง หรือมีอุบัติเหตุข้างหน้าจำเป็นต้องเบรกกะทันหัน อาจเปิดไฟฉุกเฉินในช่วงสั้นๆ เพื่อเตือนให้รถคันหลังระวังและชะลอความเร็วได้ เมื่อรถยนต์ที่ตามมาเบรก และจอดต่อรถเราแล้วควรปิดไฟฉุกเฉิน

     อย่างไรก็ตามควรขับรถอย่างระมัดระวัง และมีสติในการใช้รถใช้ถนนอยู่ตลอดเวลา เพราะหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นทำให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้นั่นเอง