- คปภ. ออกประกาศ/คำสั่ง (ตามเลขอ้างอิง) ให้กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (รถยนต์ส่วนบุคคล) ต้อง “ระบุชื่อผู้ขับขี่ (Named-driver)” อย่างชัดเจน โดยสามารถระบุได้สูงสุด 5 คนต่อกรมธรรม์
- กฎนี้เริ่มมีผลใช้งานกับรถใหม่/ป้ายแดง (อายุรถ ≤ 1 ปี) ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2568
- สำหรับรถยนต์ทุกคัน (รถเก่า รถมือสอง รถใช้งานทั่วไป) กฎแบบระบุชื่อผู้ขับขี่จะบังคับเต็มรูปแบบตั้งแต่ 1 มกราคม 2569
- ประกันภัยในรูปแบบใหม่นี้ จะใช้ ข้อมูลผู้ขับขี่จริง (ชื่อ–นามสกุล, เลขบัตรประชาชน/ใบขับขี่, วันเกิด, ใบขับขี่) เป็นปัจจัยพิจารณาคำนวณเบี้ยและส่วนลด/เพิ่มเบี้ยตามพฤติกรรมการขับขี่ ได้แก่ ประวัติเคลม ประวัติขับขี่ ฯลฯ
- หากเกิดอุบัติเหตุโดยผู้ขับที่ ไม่อยู่ในรายชื่อ บนกรมธรรม์ จะมีผลเสีย เช่น บริษัทประกันอาจไม่จ่ายเต็ม หรือเก็บ “ค่าเสียหายส่วนแรก (deductible)” จากผู้เอาประกัน เช่น Own-Damage (OD) อาจต้องจ่าย 6,000 บาทต่อเหตุการณ์
ทำไม คปภ. ถึงเปลี่ยนกฎแบบนี้?
- จุดประสงค์สำคัญคือ “สร้างความรับผิดชอบ และลดความเสี่ยง” — โดยให้เบี้ยประกันสะท้อนพฤติกรรมผู้ขับจริง ๆ มากขึ้น เช่น ถ้าขับดี ไม่เคลม ก็อาจได้ส่วนลดเบี้ยสูง ในทางกลับกัน ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยงบ่อย ก็จะเสียเบี้ยแพงกว่า
- เป็นการส่งเสริมให้ผู้ขับขี่ “ขับดี” เพราะรู้ว่าพฤติกรรมมีผลโดยตรงต่อเบี้ยและความคุ้มครอง — ทำให้ลดอุบัติเหตุบนถนนในภาพรวม
- สำหรับบริษัทประกัน — ระบบระบุชื่อผู้ขับช่วยให้ควบคุมความเสี่ยงได้ชัดเจนขึ้น ลดกรณีหลอกใช้รถ/เคลมจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบต่อเจ้าของรถ — สิ่งที่ควรรู้
| ประเด็น | สิ่งที่ต้องระวัง / ปรับตัว |
| ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่ | ถ้าขับหลายคน ให้รวบชื่อทุกคนไว้ในกรมธรรม์ (1–5 คน) |
| ข้อมูลผู้ขับสำคัญ | เตรียมชื่อ–นามสกุล, ใบขับขี่, เลขบัตร/วันเกิด ให้ครบ |
| ถ้าขับโดยคนที่ไม่ระบุชื่อ | ถ้าชน อาจโดนค่าเสียหายส่วนแรก / ประกันถูกปฏิเสธ |
| เบี้ยอาจขึ้น/ลงตามประวัติ | ขับดี ไม่มีเคลม → เบี้ยน่าจะถูกลง (ส่วนลดสูงสุด 40-80%) |
| รถเก่า/ใช้งานหลายคน | ควรปรับกรมธรรม์ให้ถูกต้อง เพื่อให้คุ้มครองจริง |
เจตนารมณ์ — ทำไมระบบใหม่ช่วยให้รถส่วนตัวน่าใช้น้อยลง?
นโยบายนี้มีเป้าหมายใหญ่ 2 ด้าน:
- ลดอุบัติเหตุ — เมื่อคนขับรู้ว่าต้องรับผิดชอบทั้งชื่อและเบี้ยที่จ่ายไป ย่อมขับขี่ระมัดระวังมากขึ้น
- สร้างความยุติธรรมในระบบประกันภัย — คนขับดีได้รับผลประโยชน์ คนขับเสี่ยงต้องจ่ายเบี้ยมากกว่า
สำหรับภาคประชาชน — ถ้าทุกคนให้ความร่วมมือ ก็มีโอกาสเห็นเบี้ยประกันที่สอดคล้องกับความเสี่ยงจริง ๆ และคัดกรองผู้ขับที่สุ่มเสี่ยงออกไป
สรุป
แม้จะมีภาพว่า “คปภ. ยกเลิกกฎหมายเดิม / ประกันเปลี่ยนไป” แต่จริง ๆ แล้ว “ไม่ใช่การยกเลิก” — แต่เป็นการ “ปรับให้ทันสมัย” เพื่อความยุติธรรมและปลอดภัยบนท้องถนน
การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์ เป็นเรื่องที่ผู้ใช้รถควรมองว่าเป็น “โอกาส” ไม่ใช่ภาระ — ถ้าขับดี ใช้รถด้วยความรับผิดชอบ คุณอาจได้เบี้ยที่ถูกลงและได้ความคุ้มครองที่ชัดเจนกว่าเดิม
ดังนั้น ถ้าคุณมีรถส่วนตัว เตรียมข้อมูลให้พร้อม แล้วปรับกรมธรรม์ให้ทันกฎใหม่ — เพื่อความอุ่นใจในทุกการขับขี่ครับ ????✅
