วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ

August 05, 2022 รถยนต์ วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ

     แบตเตอรี่รถยนต์ คือ อุปกรณ์ที่สำคัญต่อรถยนต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรองให้กับรถยนต์ทำให้ขับเคลื่อนได้ คอยจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับไดสตาร์ท ระบบจุดระเบิด และอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับรถยนต์อีกด้วย ซึ่งวิธีที่จะยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานๆ จะต้องมีการดูแลรักษาที่ถูกต้องนะครับ ยิ้มได้ประกันภัยจึงได้รวบรวม วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตนเองมาฝากกันครับ

 

6 วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์

1.ตรวจสภาพภายนอกของแบตเตอรี่สม่ำเสมอ

     การตรวจสภาพภายนอกของแบตเตอรี่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการสังเกตได้ด้วยตาเปล่า โดยให้แบตเตอรี่อยู่ในสภาพดี อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่บวม และไม่เก็บประจุไฟฟ้า หากแบตเตอรี่แตกร้าวคอยลองมองว่ามีน้ำกรดหรือของเหลวซึมออกมาตามขอบ ด้านข้าง หรือ ฝาครอบแบตเตอรี่หรือเปล่า และยังติดอยู่กับฐานแน่นดีหรือไม่แต่ก็ไม่ควรแน่นจนเกินไป อาจจะทำให้แบตเตอรี่บวมหรือร้าวได้

 

2.ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งาน

     แบตเตอรี่ควรอยู่ในสภาพที่สะอาด แห้ง ไม่มีฝุ่นจับหนาเขรอะ ไม่มีคราบเปื้อน หรือคราบขี้เหลือสีขาวๆ ขึ้นที่แบตเตอรี่ เพราะสิ่งสกปรกเหล่านี้อาจส่งผลกระทบกับประสิทธิภาพในการจ่ายไฟของแบตได้ ซึ่งจุดจ่ายไฟของแบตเตอรี่จะถูกกัดกร่อนตามระยะเวลาของการใช้งานอยู่แล้ว แต่การรักษาความสะอาดให้ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนค่อยๆ เทราดไปที่ขั้วแบตแล้วใช้แปรงสีฟันเก่าขัดจนสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วใช้วาสลีนหรือจาระบีทาบางๆ ที่ขั้วแบตเตอรี่เพื่อป้องกันคราบขี้เกลือ

 

3.ตรวจเช็คน้ำกลั่น

     การตรวจเช็คน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้น้ำแห้ง ถ้าเป็นแบตเตอรี่ที่ต้องเติมน้ำกลั่น ควรหมั่นเช็คและเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่พอดีอย่าให้น้ำกลั่นแห้ง หรืออยู่ต่ำกว่าขีดต่ำสุด และไม่ควรเติมน้ำกลั่นให้สูงเกินไป เพราจะทำให้ขั้วแบตเตอรี่สกปรกและมีขี้เกลือขึ้นเร็ว ที่สำคัญ! ห้ามใช้น้ำกรดหรือน้ำกลั่นที่มีสารเคมีผสมเติมลงไปเด็ดขาด

 

4.ตรวจวัดระดับกระแสไฟแบตเตอรี่

     ควรตรวจวัดระดับกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่อยู่อย่างสม่ำเสมอ เช่นในกรณีที่พบว่าแบตเตอรี่ของเรามีกำลังอ่อน สังเกตได้จากเวลาสตาร์ทเครื่องแล้วนานผิดปกติ สิ่งแรกที่ควรทำคือการนำแบตเตอรี่ไปชาร์จเพื่อตรวจสอบดูว่าแบตยังอยู่ในสภาพที่ยังสามารถใช้งานได้หรือไม่

 

5.ตรวจเช็คระบบชาร์จไฟ

     ควรตรวจสอบระบบชาร์จไฟว่าต่ำหรือสูงไปไหม ถ้าต่ำไปอาจทำให้กำลังไฟไม่พอในการสตาร์ทรถ หรือถ้าสูงไปจะทำให้น้ำกรดและน้ำกลั่นภายในเดือดและระเหยเร็ว

 

6.เช็คตาแมวแบตเตอรี่

     สำหรับรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่แห้ง สามารถเช็คได้ด้วยการดูตาแมวแบตเตอรี่เพื่อเช็คกำลังไฟ ถ้าตาแมวเป็นสีน้ำเงินแสดงว่าใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าเป็นสีส้มหรือสีแดงหมายความว่าแบตเตอรี่มีปัญหา อาจต้องชาร์จไฟหรือเติมน้ำกลั่นเพิ่ม และถ้าตาแมวเป็นสีขาวแสดงว่าแบตหมดหรือเสื่อมคุณภาพ

 

อาการแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม

  • สตาร์ทเครื่องยนต์ติดยากหรือไม่ติดโดยเฉพาะตอนเช้าๆ
  • ระบบไฟหน้าหรือระบบไฟภายในห้องโดยสารไม่สว่างเหมือนเดิม
  • กระจกไฟฟ้าไม่มีแรงขึ้นหรือไม่ขึ้นเลย
  • แผ่นธาตุภายในแบตเตอรี่เกิดการเสื่อมและบวม

วิธีแก้ไขแบตเตอรี่เสื่อม เปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ทันที เพราะอาการเสื่อมของแบตเตอรี่คือไม่สามารถเก็บกระแสไฟฟ้าได้แล้ว เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด ให้หาแบตเตอรี่ลูกที่ใหญ่กว่า หรือแอมป์มากกว่ามาทำการจัมป์ และเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว ไม่ควรดับเครื่องยนต์อีก ควรรีบหาร้านแบตเปลี่ยนใหม่ทันที

อาการแบตเตอรี่รถยนต์หมด

  • ระบบเซ็นทรัลล็อคไม่ทำงาน แตรรถไม่ดัง
  • ระบบไฟส่องสว่างไม่ติด
  • สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้

วิธีแก้ไขแบตเตอรี่หมด เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด ให้หาแบตเตอรี่ลูกที่ใหญ่กว่า หรือแอมป์ที่มากกว่า มาทำการจั๊มหรือพ่วงแบตเตอรี่หลักจากนั้นสตาร์ทรถเพื่อให้ไดชาร์จทำงานจะได้ผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่จนเต็ม

 

     เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับวิธีการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่ายๆ ทั้งนี้ ขณะตรวจเช็คแบตเตอรี่ ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการระเบิดได้นั้นเอง อย่างไรก็ตามควรขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ และเพื่อเพิ่มความอุ่นใจควรทำประกันภัยรถยนต์เอาไว้ด้วยนะครับ

 

สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด