หลายๆ ที่ในประเทศไทยมีอุณหภูมิที่สูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งจริงๆคนไทยจะเคยชินกับอาการร้อนกันอยู่แล้วแต่พอเข้าช่วงเดือนมีนาคมจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม อากาศที่ร้อนอยู่แล้วก็จะร้อนมากขึ้นไปอีก ซึ่งบางทีอุณหภูมิจะพุ่งขึ้นไปถึง 40 - 43 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว อาจทำให้เป็นโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) กันได้
รู้จักโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด
เป็นภาวะที่เกิดจากร่างกายมีความร้อนสูงเกินไปซึ่งมักเกิดจากการทำงาน ใช้แรงงาน หรือออกกำลังกายอย่างหนักในภาวะแวดล้อมที่มมีอุณหภูมิสูง มักเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงถึง 40.5 องศาเซลเซียส หรือมากกว่า และมักจะเกิดในช่วงฤดูร้อนหรือบริเวณที่มีความชื้นในอากาศสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะสำคัญในร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ ปอด ไต และกล้ามเนื้อได้นะครับ
สาเหตุของการเกิดโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)
สาเหตุที่ทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกตินำไปสู่การเป็นโรคฮีทสโตรก โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่
โรคฮีทสโตรกที่ไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกายหนัก (Classical Heatstroke) | เกิดจากการที่เราอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศร้อนมากเกินไป เช่น อยู่กลางแจ้ง ไม่มีแรงลม อยู่ในที่ที่มีความชื้นสูง อากาศถ่ายเทได้ไม่ดีหรืออยู่ในบ้านที่ปิดมิดชิดไม่มีที่ระบายอากาศจนส่งผลทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีอายุมาก หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนและขาดน้ำได้ |
โรคฮีทสโตรกที่เกิดจากการใช้กำลังกายหนัก (Exertional Heatstroke) | เกิดจากการที่ออกกำลังกายหักโหมมากจนเกินไปจนทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงผิดปกติ และไม่สามารถปรับตัวได้จนทำให้กลายเป็นโรคฮีทสโตรก มักพบในคนที่มีอายุน้อย นักกีฬา กลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ทำงานกลางแจ้ง และสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง |
เช็คด่วน! ร้อนนี้ใส่เสื้อสีไหนแล้วร้อนน้อยสุด อ่านเพิ่มเติมคลิก!
สัญญาณเตือนสำคัญของโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke)
- อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
- ไม่มีเหงื่อออก แม้จะอยู่ในที่ที่อากาศร้อน
- ผิวหนังแดงร้อนและแห้ง
- รู้สึกกระหายน้ำมาก
- ปวดศีรษะ
- วิงเวียนศีรษะ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- หายใจเร็วและหัวใจเต้นเร็ว
- กล้ามเนื้อเกร็ง
- มึนงง
- สับสน
- รูม่านตาขยาย
- ความรู้สึกตัวลดน้อยลง
- หมดสติ
กลุ่มเสี่ยงต่อโรคฮีทสโตรก | ||
การป้องกันโรคฮีทสโตรก
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อนจัดเป็นเวลานาน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- ทาครีมกันแดด
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
- ดูแลผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ
การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคฮีทสโตรก
- ย้ายผู้ป่วยไปยังที่ร่มและเย็น
- ปลดเสื้อผ้าให้หลวม
- เช็ดตัวด้วยน้ำเย็นหรือพัดลม
- ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเย็น
- ประคบเย็นบริเวณศีรษะ คอ รักแร้ และขาหนีบ
- รีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์