รถยางแบนหรือยางรั่ว สิ่งที่ไม่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ในบางครั้งผู้ขับขี่อาจไม่ได้สังเกตแต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะอาการเหล่านี้บ่งบอกได้ว่า ยางรถยนต์ของคุณกำลังผิดปกติและควรได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุด สำหรับจุดสังเกตว่ายางแบนเกิดขึ้นจากด้านหน้าหรือหลังสามารถสังเกตได้ดังนี้ครับ
- หากยางหน้าแบน ลักษณะของรถจะไถลไปข้างใดข้างหนึ่ง
- หากยางหลังแบน ลักษณะอาการของรถวิ่งส่ายไปมา
สาเหตุที่ทำให้ ยางรั่ว ยางแบน ต้องเติมลมยางบ่อย มีดังนี้
- เกิดจากระหว่างการขับขี่ แล้วเผลอไปเหยียบตะปู เศษแก้ว หรือของมีคมที่ตกหล่นอยู่บนท้องถนนโดยไม่รู้ตัว เป็นสาเหตุหลักอันดับต้นๆ ที่ทำให้ยางรั่วยางแบน ต้องเติมลมยางบ่อย
- ยางรถยนต์ ที่มีอายุการใช้งานนานเกินไป อาจทำให้ขอบยางรถยนต์ มีความอ่อนตัวลงและเกิด ยางรั่ว ยางแบน และทำให้ต้องเติมลมยางบ่อยได้
- ความเสียหายที่แก้ม ยาง การขับรถตกหลุมลึกจนอาจทำให้เกิดการผิดรูปที่แก้ม ยาง สามารถทำให้ลม ยางรั่ว ยางแบน และต้องเติมลมยางบ่อยๆ
- ฝาเปิดเติมลม ยาง ชำรุดหรือหายไปโดยไม่รู้ตัวจึงสามารถทำให้กรวด น้ำ หรือสิ่งต่างๆ ที่มีขนาดเล็กเข้าไปทำให้ภายใน ยางรถยนต์ เสียหายจนเกิด ยางรั่ว นางแบน และต้องเติมลมยางบ่อยๆ นะครับ
ข้อควรปฏิบัติเมื่อรถยางแบน
- ชะลอความเร็ว ค่อยๆ บังคับพวงมาลัยเข้าข้างทางที่ปลอดภัยเข้าเกียร์ P ดึงเบรกมือให้เรียบร้อย
- ห้ามเหยียบเบรกกะทันหัน และควรเลือกจอดในพื้นที่ที่เรียบ ละแข็ง
- ตรวจดูสภาพความเสียหายของยาง ว่าสาเหตุที่รั่วมาจากสาเหตุใด ถ้ารั่วจากโดนตะปู หรือโดนอะไรทิ่มแต่ถ้าเหตุการณ์ยางระเบิด ฉีดขาดกว้างไม่สามารถซ่อมได้จะต้องเปลี่ยนยางอะไหล่
ยางแบบไหนควรซ่อมหรือควรเปลี่ยน
- หากยางรถยนต์ของคุณถูกตะปูหรือวัสดุอื่นๆ ทิ่ม สามารถซ่อมได้ถ้าหากว่ารอยนั้นอยู่ในพื้นที่ดอกยาง และไม่เกิน ¼ นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง
- หากรอยเจาะอยู่บริเวณแก้มยาง หรือ ไหล่ยาง ก็อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ เพื่อความปลอดภัยของคุณ
- หากมีรอยเจาะมากกว่า 1 รอย และห่างกันเกิน 16 นิ้ว ก็สามารถซ่อมแซมยางรถยนต์ได้ แต่ถ้าต่ำกว่านั้นควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวผู้ขับขี่
- หากยางของคุณได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากการชน ควรเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทันที
วิธีการรับมือเบื้องต้น เมื่อยางรถยนต์มีปัญหา
หากมีรอยเล็กๆ ก็สามารถนำไปซ่อมแทน อย่างการโดนตะปูหรือวัสดุอื่นๆ ทิ่มก็สามารถนำไปซ่อมได้โดยรอยนั้นจะอยู่ในพื้นที่ดอกยางและไม่เกิน ¼ นิ้วเส้นผ่าศูนย์กลาง และสำหรับวิธีการรับมือเบื้องต้นเมื่อยางรถยนต์มีปัญหานั้นคือการนำไป ปะยาง ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วครับ และการปะยางมีอยู่ 2 วิธี
- การปะยางแบบน้ำปะยางกับปั๊มลมไฟฟ้า การปะยางด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ง่ายๆเลยครับ แต่ต้องระวังด้วยนะครับ เพราะว่าวิธีนี้สามารถใช้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น
- การปะยางแบบแทงไหม เป็นการปะยางแบบชั่วคราวที่ช่วยแก้ไขยางรั่วได้อย่างปลอดภัย การปะยางแบบแทงไหมนี้จะเหมาะกับรอยรั่วที่มีขนาดเล็กเท่านั้นนะครับ
เมื่อทำการปะยางเรียบร้อยแล้วควรขับขี่อย่างระมัดระวังและนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจสอบยางรถยนต์ด้วยนะครับ และหากรถของคุณยางแบนหรือความดันลมยางรถยนต์ต่ำเกินไป ควรเติมลมยางทันทีเพื่อลดการสึกหรอของยางรถยนต์ ดังนี้
เติมลมยางรถเก๋งหรือรถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางที่แรงลม | 25 - 30 ปอนด์ |
รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางที่แรงลม | 30 - 35 ปอนด์ |
รถกระบะ (ไม่บรรทุก) ควรเติมลมยางที่แรงลม | 35 - 40 ปอนด์ |
รถตู้บรรทุก 7 - 10 คน ควรเติมลมยางที่แรงลม | 43 - 55 ปอนด์ |
ทั้งนี้ การเติมลมยางรถยนต์ ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและน้ำหนักที่บรรทุก ซึ่งการเติมลมยางนั้นสามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ดังนี้
- แบบเติมลมยางธรรมดา เชื่อว่าผู้ใช้รถคงจะคุ้นเคยมีบริการเกือบทุกปั๊มน้ำมัน
- แบบเติมลมไนโตรเจน ปัจจุบันผู้ใช้รถหันมาเติมลมไนโตรเจนมากยิ่งขึ้น เพราะการเติมไนโตรเจนจะมีความเสถียรมากกว่า เพราะการเติมลมยางธรรมดาจะมีก๊าซและไอน้ำปะปนอยู่ส่วนหนึ่งทำให้รั่วซึมง่ายกว่าการเติมลมไนโตรเจน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเติมลมไนโตรเจน หรือ เติมลมยางธรรมดาก็ควรหมั่นตรวจเช็คลมยางทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวผู้ขับขี่และเพื่อนร่วมทางนั้นเอง
แต่เพื่อเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วย สำหรับใครที่มองหาประกันภัยรถยนต์ราคาถูก และตรงกับความต้องการ สามารถทำได้ที่ ยิ้มได้ประกันภัย เพียงโทร 02-432-2345 หรือ ซื้อประกันภัยรถยนต์ผ่าน www.yimdaiinsurance.com เพื่อรับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด